พนักงานไปรษณีย์โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจหลังไปรษณีย์ไทยเจอสังคมรุมจวกพัสดุที่ถูกส่งได้รับความเสียหาย

 

เมื่อวานนี้ ( 6 ก.ค.) สมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้แชร์ข้อความของสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อAeam chockdee อย่างกว้างขวางโดยข้อความดังกล่าวเป็นการแสดงความเห็นถึงการทำงานของพนักงานไปรษณีย์หลังจากที่ผ่านมาได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเสียหายของพัสดุที่ถูกส่งผ่านไปรษณีย์ไทยอย่างกว้างขวางโดยข้อความดังกล่าวระบุว่า

ช่วงนี้รู้สึกภูมิใจมากครับองค์กรโดนด่ายับพนักงานโดนด่าเละเทะตัดต่อกันสนุกสนาน ยินดีครับเห็นประชาชนมีความสุขเราก็ดีใจแต่อยากชี้แจงดังนี้ครับ

 

1.ไปรษณีย์ไทยไม่ได้กินเงินภาษีประชาชนครับเป็นรัฐวิสาหกิจที่ทำกำไรเลี้ยงตนเองส่งเงินเข้ารัฐปีละหลายร้อยล้านบางทีเป็นพันล้าน

 

2. การเขียนคำหยาบคายสาปแช่งที่เขาห้ามส่งไม่ใช่อะไรมันผิดกฎหมายตาม พรบ. ไปรษณีย์ 2477

 

3.การเขียนคำว่าห้ามโยนห้ามพับส่วนใหญ่ไมได้ผลเพราะเราใช้เครื่องคัดแยกครับยังไม่มีเทคโนโลยีใดในตอนนี้ของไปรษณีย์ครับที่อ่านตัวหนังสือออก(การคัดแยกจะเกิดแรงกระแทกพอสมควรเนื่องจากจะมีน้ำหนักกล่องกระแทกกัน)

 

4.การเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากการหุ้มห่อไม่เหมาะสม พูดไปจะหาว่าแก้ตัวแต่ลูกค้าผมส่ง แก้วส่งชาม เบญจรงค์ มือถือ ไม่เคยมีแตกหักเสียหายครับ

 

5.ไม่ปฏิเสธความเสียหายที่เกิดจากพนักงานมันมีอยู่จริงแต่สามารถร้องเรียนได้ตามระบบไม่ใช่การโพสผ่านเน็ต หรือเพียงแค่โทร 1545ต้องไปติดต่อที่ปณ.ปลายทางหรือต้นทางครับ

 

6.ไปรษณีย์ไทยไม่ได้มีกฎหมายผูกขาดการส่งสิ่งของพัสดุต่างๆครับมีเอกชนให้บริการเยอะแยะราคาถูกกว่าบ้างแพงกว่าบ้างมีให้เลือกใช้ตามสบาย ยกเว้นการผูกขาดการส่งจดหมายตามพรบ. 2477

 

7.พวกผมไม่ได้เงินเดือนเยอะครับเงินเดือนน้อยกว่าระบบราชการด้วยซ้ำไม่ได้ทำงานสบายครับ ทำงานหาเงินส่งเข้าประเทศครับไม่ได้นั่งว่างแบบที่ชอบพูดกัน

 

8.ส่วนตัวไม่ค่อยเจอกรณีแตกหักเสียหายเพราะ ผู้ส่งที่ปณ.ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้ามืออาชีพเขารับผิดชอบของทำการหุ้มห่อมาอย่างดีไม่ใช้ผลักภาระให้คนอื่นแต่ฝ่ายเดียว

 

9.หลายคนอยากให้ยุบไปรษณีย์ทิ้งคุณเคยรู้บ้างไหมธุรกิจขายของทางอินเตอร์เน็ตภายในประเทศเติบโตได้ด้วยไปรษณีย์เพราะค่าส่งที่ถูกแทบไม่มีกำไรด้วยซ้ำเฉลี่ยแล้วกำไรอยู่แค่ 9-10 % บริการพวกนี้จึงกึ่งบริการประชาชน

 

10.สุดท้ายหากตำหนิติชมอย่างมีหลักฐานยินดีน้อมรับแต่รับไม่ได้กับการตัดต่อภาพแบบเลอะเทอะล้อเลียนโดยไร้สาระเกินความจริงมันเหมือนทำกันเอาสนุกมากกว่า

                 

อย่างไรก็ตามได้มีสมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้เข้าไปแสดงความเห็นต่อข้อความดังกล่าวจำนวนมากโดยมีทั้งข้อความเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยและต่อมาสมาชิกเฟซบุ๊กเจ้าของข้อความได้ลบข้อความดังกล่าว