ไม่พบผลการค้นหา
เกาหลีใต้กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการการศึกษาโลก ด้วยตำแหน่งประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารชื่อดัง
เกาหลีใต้กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการการศึกษาโลก ด้วยตำแหน่งประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารชื่อดัง แต่เบื้องหลังการก้าวขึ้นมาสู่ความสำเร็จของเกาหลีใต้ครั้งนี้กลับเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆมากมายที่สะท้อนความผิดพลาดของระบบการศึกษาที่เน้นการท่องจำมากเกินไป 
 
 
บริษัทเพียร์สัน ผู้นำในวงการการศึกษาโลกร่วมกับ"อีโคโนมิสต์"นิตยสารชื่อดัง จัดอันดับประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกในปี 2557 โดยปรากฏว่าเกาหลีใต้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหมายเลข 1 ของโลกในด้านการศึกษา แทนที่ฟินแลนด์ที่ขยับลงมาอยู่ในอันดับ 5 ตามด้วยญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง 
 
 
ส่วนสามอันดับที่รั้งท้ายตารางอันดับคุณภาพการศึกษาครั้งนี้ได้แก่อินโดนีเซีย  เม็กซิโก และบราซิล ขณะที่ประเทศไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 35 จากปีก่อนที่อยู่ในอันดับ 37 โดยผลการจัดอันดับได้สะท้อนให้เห็นความสอดคล้องที่ว่าประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจดีจะมีการพัฒนาระบบการศึกษาที่ดีตามไปด้วย 
 
 
การจัดอันดับครั้งนี้ใช้ผลการวัดทักษะทางปัญญาจากโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติที่องค์การความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ หรือ OECD จัดทำขึ้น บวกกับโครงการประเมินผลวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และโครงการประเมินความก้าวหน้าด้านการรู้หนังสือนานาชาติ ซึ่งจัดทำโดยศูนย์วิจัยการศึกษาในสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังใช้สถิติผลสำเร็จการศึกษาในแต่ละประเทศมาร่วมการประเมินด้วย  
 
 
ความสำเร็จในการยกระดับการศึกษาของชาติเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ถูกมองว่าเป็นผลมาจากระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ บวกกับวัฒนธรรมความขยัน การให้ความสำคัญกับครูและโรงเรียนอย่างมาก รวมไปถึงการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของครู นักเรียน และผู้ปกครอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ในหลายประเทศไม่มี ทำให้เกาหลีใต้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการศึกษาของโลกได้
 
 
ปรากฎการณ์ดังกล่าวทำให้นักวิชาการโลกตะวันตกบางคนมองว่า ในเวลานี้โลกไม่อาจละเลยวิธีการพัฒนาการศึกษาของชาติเอเชียตะวันออกได้ แต่สำหรับเกาหลีใต้ การก้าวขึ้นมาครั้งนี้กลับมีการตั้งคำถามมากมายโดยเฉพาะเรื่องผลระยะยาวของ"การเรียนแบบท่องจำ"ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการทำลายความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการแก้ปัญหา เนื่องจากพบว่าในช่วงสอบ นักเรียนเกาหลีใต้กลุ่มที่ได้คะแนนสอบสูงสุดสามารถจำเนื้อหาได้มากถึง 60 หน้าจากทั้งหมด 100 หน้า แต่ถ้ากลับมามองผลทดสอบโครงการวัดทักษะความสามารถของวัยแรงงาน จะพบว่าแรงงานในวัย 16-65 ปีของเกาหลีใต้ มีคะแนนด้านความสามารถการคิดคำนวน และการอ่านทำความเข้าใจข้อมูลต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการทดสอบ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาระยะยาวในการเรียนรู้แบบท่องจำของเกาหลีใต้ ขณะที่ชาติผู้นำการศึกษาอื่นๆอย่างญี่ปุ่น ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์กลับเป็นผู้นำในด้านการทำคะแนนด้านการคำนวณและทำความเข้าใจข้อมูล
 
 
ยิ่งไปกว่านั้นเกาหลีใต้ยังประสบปัญหาคุณภาพชีวิตของนักเรียน ที่บางคนใช้เวลาถึง 14 ชั่วโมงอยู่กับการเรียนเพื่อการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ทำให้อัตราการฆ่าตัวตายของเด็กเกาหลีใต้มีสูงมาก 
 
 
ทั้งหมดสะท้อนภาพความจริงของสภาพระบบการศึกษาเกาหลีใต้ที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด จนนักเรียนบางคนออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาเพื่อลดสภาพความตึงเครียดที่เป็นอยู่ ซึ่งต่างกับประเทศฟินแลนด์ เจ้าของตำแหน่งประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลกเมื่อปีที่ผ่านมา ที่เด็กมีสุขภาพจิตดี และไม่ต้องคร่ำเคร่งกับการเรียนมากนัก
 
 
การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในโลกการศึกษาของเกาหลีใต้ครั้งนี้อาจทำให้หลายชาติอดอิจฉาในความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้ แต่เบื้องหลังการก้าวขึ้นมาเต็มไปด้วยความน่าสลดของระบบการศึกษาที่เน้นถึงการแข่งขันจนสร้างความตึงเครียดให้กับเด็ก และตัวเลขการทดสอบทักษะคุณภาพแรงงานก็สะท้อนให้เห็นถึงผลเสียของการเรียนแบบท่องจำ หากปัญหาเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไข นี่อาจกลายเป็นเพียงมายาคติที่สร้างรอยยิ้มให้คนในชาติ แต่เบื้องหลังกลับเป็นความหดหู่ของชะตากรรมเด็กเกาหลีใต้ที่จะต้องเผชิญในระบบการศึกษาเช่นนี้ต่อไป
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog