เมื่อพูดถึงอิตาลี หลายคนมักจะคิดถึงความมีสไตล์แบบเซอร์ๆไม่ตั้งใจ ซึ่งอยู่คนละขั้วกับฝรั่งเศส แต่อิตาลีในปัจจุบันจะยังมีเสน่ห์เรียบหรูเหมือนเดิม หรือเพียงแค่อาศัยชื่อเสียงในอดีตเพื่อความอยู่รอด
เมื่อพูดถึงอิตาลี หลายคนมักจะคิดถึงความมีสไตล์แบบเซอร์ๆไม่ตั้งใจ ซึ่งอยู่คนละขั้วกับฝรั่งเศส แต่อิตาลีในปัจจุบันจะยังมีเสน่ห์เรียบหรูเหมือนเดิม หรือเพียงแค่อาศัยชื่อเสียงในอดีตเพื่อความอยู่รอดในวงการแฟชั่น
เมื่อพูดถึงแฟชั่นเสื้อผ้าต่างๆ แบรนด์เนมจากอิตาลีเป็นชื่อแรกๆที่ทุกคนนึกถึง ไม่ว่าจะเป็นวาเลนติโน เวอซาเช กุชชี ปราดา เพราะความเรียบหรูเฉพาะตัวที่ทำให้ใครๆก็หลงใหลแบรนด์เหล่านี้ และยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้ไอเท็มเด็ดๆมาครอบครอง
แฟชั่นเป็นส่วนหนึ่งของคนอิตาเลียนมานานหลายร้อยปีแล้ว เนื่องจากครอบครัวชนชั้นสูงในยุคนั้นมองว่า รูปลักษณ์หน้าตาและการแต่งตัวเป็นตัวบ่งบอกสถานะทางสังคมได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น จึงใส่ใจกับเรื่องแฟชั่นมาก และยอมลงทุนมากมายไปกับการแต่งกาย
แต่อุตสาหกรรมแฟชั่นของอิตาลีมาเฟื่องฟูอย่างจริงจังในช่วงหลังสงครามโลก เพราะชนชั้นนำกลุ่มหนึ่งรวบรวมเสื้อผ้าแบบต่างๆจากช่างตัดเสื้อและร้านขายเสื้อผ้าที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศมาจัดแสดงในฟลอเรนซ์ และเนื่องจากเสื้อผ้าที่นำมาจัดแสดงนี้มีราคาถูกว่าเสื้อผ้าจากฝรั่งเศสกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีคนสนใจเลือกซื้อเสื้อผ้าจากอิตาลีมากขึ้น และไม่นานก็มีคนนำไปขายในสหรัฐฯ แฟชั่นเสื้อผ้าจากอิตาลีจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงยุค 50 และยุค 60 ถือเป็นจุดกำเนิดภาพจำที่ดึงดูดให้คนอยากไปเที่ยว และแต่งตัวตามแฟชั่นของอิตาลี เพราะเป็นช่วงที่ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเข้าไปถ่ายทำในอิตาลีมากมาย เนื่องจากต้นทุนต่ำและภูมิอากาศที่อบอุ่น มีแสงแดดที่เหมาะสมกับการถ่ายทำภาพยนตร์ อิทธิพลของดาราที่สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์อิตาเลียนจึงทำให้แฟชั่นสไตล์อิตาเลียนยิ่งโด่งดังขึ้น จนกลายเป็นภาพจำที่ส่งต่อกันมาจนถึงปัจจุบันว่าอิตาลีคือเมืองแห่งแฟชั่น
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เสื้อผ้าจากอิตาลีก็ยังเป็นที่นิยมจากคนทั่วโลก แต่แฟชั่นอิตาเลียนในปัจจุบันถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมและยึดติดกับแบบแผนมากเกินไป ทำให้มิลานเสื่อมอิทธิพลในวงการแฟชั่นลงมากทีเดียว
สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะหลายแบรนด์ยังเป็นธุรกิจครอบครัว ทำต่อๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้นักออกแบบรุ่นใหม่อาจมีโอกาสเติบโตได้ยากขึ้น ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ดังๆอย่างกุชชี วาเลนติโนและจอร์โจ อาร์มานีจึงให้ทุนกับเด็กรุ่นใหม่ได้มีโอกาสแสดงฝีมือ และมีพื้นที่บนรันเวย์ นอกจากนี้ นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลียังประกาศว่าจะสนับสนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างเต็มที่
เราอาจสรุปได้ว่า ภาพจำเกี่ยวกับแฟชั่นที่ทันสมัยของอิตาลีเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นในปัจจุบันเข้มแข็งมาก แต่ชาวอิตาเลียนในปัจจุบันเองก็ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ต่อไป เพราะแฟชั่นยังอยู่ในสายเลือดของชาวอิตาเลียนเสมอมา