ารเที่ยวโฮมสเตย์สุดโต่งอย่างอยู่ในสลัมบราซิลเหมือนที่กำลังจะเกิดในฟุตบอลโลกกลางปีนี้ ยังมีเทรนด์ท่องเที่ยวหนึ่งที่ทั้งน่าสนใจ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นั่นก็คือการเที่ยวแบบเปลือยๆ หรือ N
ในยุคที่การท่องเที่ยวมีเทรนด์ใหม่ๆแปลกๆ สุดสร้างสรรค์ให้เลือกเที่ยวกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวอวกาศราคาแสนแพง การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบโฮมสเตย์ ปั่นจักรยาน การเที่ยวเชิงสุขภาพ แช่น้ำร้อน นวดแผนไทย แช่โคลน การเที่ยวทำศัลยกรรมแบบ makeover เปลี่ยนโฉม หรือแม้แต่การเที่ยวโฮมสเตย์สุดโต่งอย่างอยู่ในสลัมบราซิลเหมือนที่กำลังจะเกิดในฟุตบอลโลกกลางปีนี้ ยังมีเทรนด์ท่องเที่ยวหนึ่งที่ทั้งน่าสนใจ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นั่นก็คือการเที่ยวแบบเปลือยๆ หรือ Nude Tourism
การไปเที่ยวหาดนู้ดหรือรีสอร์ทนู้ด แม้แต่เทศกาลพาเหรดนู้ดประจำปีในที่ต่างๆของโลก อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว และกลายเป็นสิ่งที่ทั่วโลกยอมรับมากขึ้น เนื่องจากแต่ละปี การท่องเที่ยวของคนชอบนู้ด ทำรายได้กว่า 300 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบหมื่นล้านบาท แต่เทรนด์นู้ดล่าสุด ดูจะยังไม่สร้างรายได้ให้กับใครอย่างจริงจัง และยังก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย นั่นก็คือการถ่ายรูปเปลือยตามสถานที่ท่องเที่ยวหรืออนุสาวรีย์ต่างๆ แม้บรรดานักท่องเที่ยวจะมองว่านี่เป็นการท่องเที่ยวแบบแหวกแนวที่ถูกสตางค์และสนุกท้าทายที่สุดประเภทหนึ่งก็ตาม
หนึ่งในผู้นำเทรนด์นี้ในโลกออนไลน์ก็คืออามิเชย์ แร็บ หนุมชาวอิสราเอลผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ My Naked Trip ซึ่งเขาได้รวบรวมภาพถ่ายของตัวเอง เปลือยกายในสถานที่ต่างๆทั่วละตินอเมริกา แต่ละภาพล้วนแต่สวยงามปนตลกขบขันและเปิดเปลือยความเป็นตัวตนของชายผู้นี้ จนทำให้เขากลายเป็นแรงบันดาลใจของนักเดินทางหลายคน ให้เริ่มถ่ายภาพตัวเองเปลือยตามที่ท่องเที่ยวต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะธรรมชาติสวยๆ แลนด์มาร์กสำคัญๆของโลก หรืออนุสาวรีย์อันยิ่งใหญ่
การเปลือยกายแบบนี้ อาจจะถูกกฎหมายในบางประเทศ แต่ก็มีบางประเทศที่นักท่องเที่ยวถูกจับหรือปรับเงินแพงๆ เพราะทำตัวอนาจารในที่สาธารณะ ที่สำคัญยังนำมาซึ่งข้อถกเถียงว่านี่คือการทำตามสิทธิเสรีภาพของตนเองบนการละเมิดเสรีภาพของคนอื่นหรือไม่ เนื่องจากถึงแม้นักเปลือยกายส่วนใหญ่จะมองว่าการเปิดเปลือยร่างกายในที่สาธารณะเป็นสิทธิเหนือร่างกายของพวกเขา และยังเป็นการหวนคืนสู่ธรรมชาติ ปราศจากการปรุงแต่ง แต่ในที่ท่องเที่ยวที่คนต่างชาติต่างศาสนาอยู่กันมากๆ มีคนจำนวนไม่น้อยที่รับไม่ได้กับการเปลือยกายถ่ายรูป และพวกเขาก็รู้สึกว่าสิทธิของตนเองกำลังถูกละเมิดอยู่เช่นเดียวกัน
