นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์ณัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ได้อนุมัติให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางสาธารณะทั้งรถใหม่ รถเก่า ในหลาย ๆ หมวดในอัตราตั้งแต่ 1 – 7 บาท โดยจะมีการขึ้นราคากันจริงในวันที่ 22 เม.ย. นี้นั้น
กรณีดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้แถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางทบทวนมติดังกล่าวเสีย เพื่อเป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ไทยที่ผ่านพ้นไป แต่ทว่าเรื่องดังกล่าวกลับไม่มีการสะท้อนกลับจากผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า แนวทางที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยในที่ประชุมของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง คือ จะมีการปรับโครงสร้างราคาใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยอาจจะกำหนดค่าโดยสารใหม่ที่แพงขึ้นกว่าเดิม สำหรับรถเมล์ใหม่ที่ได้มาตรฐานกรมการขนส่งทางบก ไม่ว่าจะเป็นรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือผู้ประกอบการรถเอกชนร่วมบริการ (รถร่วม) แต่หากเป็นรถเมล์เก่า ก็จะให้คิดค่าโดยสารเท่าเดิม หรือรัฐบาลอาจใช้รูปแบบการอุดหนุนค่าโดยสารแบบในต่างประเทศ แต่เมื่อถึงเวลานี้กลับมีมติให้ขึ้นค่าโดยสารทั้งรถโดยสารเก่าและใหม่ไปพร้อมๆ กันโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ร่วมมือกับชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่หาเช้ากินค่ำ ในการร่วมกันร่วมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพื่อขอให้เพิกถอนหรือระงับการขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ทั้งระบบเนื่องจากเป็นการสร้างภาระให้เกิดขึ้นกับประชาชนมากเกินไป ตามมาตรา 9(1) แห่ง พรบ.จัดตั้งศาลปกครองฯ 2542 โดยจะเดินทางไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ ในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. 2562 เวลา 10.00 น. พร้อมกับคำขอให้ศาลไต่สวนเพื่อคุ้มครองชั่วคราวเป็นการฉุกเฉินด้วยเนื่องจากวันจันทร์ที่ 22 เม.ย. นี้ รถโดยสารทั้งระบบจะขึ้นราคา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง