ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวตอบโต้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) หลังออกมาโจมตีพรรคเพื่อไทยในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมองว่าเป็น “เกมล้างแค้น” แทนที่จะร่วมกันทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล
ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้สวนทางกับความจริงที่สังคมรับรู้ คำพูดจากหัวหน้าพรรคที่อ้างตนว่าเป็น “การเมืองใหม่” แต่กลับยอมรับได้กับปรากฏการณ์ดูดที่เกิดขึ้น จึงควรถามกลับว่า การยกมือของพรรคประชาชนในวันนั้น กลายเป็นพลังดูดให้พรรคสีน้ำเงินในวันนี้ใช่หรือไม่
“การพูดว่าไม่มีรัฐบาลเสียงข้างมาก เป็นเพียงคำลวงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำที่ผิดพลาดของตัวเอง เพราะข้อเท็จจริงจากสมการ ส.ส. และนักการเมืองที่เพิ่มขึ้นของพรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคขนาดเล็กอีกหลายพรรค สะท้อนชัดถึงแรงดึงดูดจากอำนาจรัฐ ซึ่งพรรคประชาชนเองเป็นผู้หยิบยื่นให้” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลอนุทินในวันนี้มีอำนาจเต็มทั้งจากสภาล่างและสภาสูง ขณะที่คดีสำคัญหลายคดีที่สังคมตั้งคำถามกลับเริ่มเลือนหาย จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นเพียง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ตามที่พรรคประชาชนพยายามสร้างภาพ
“พรรคประชาชนกำลังทำหน้าที่เป็น ‘นั่งร้านค้ำรัฐบาล’ มากกว่าจะเป็นฝ่ายค้านที่ตรวจสอบอำนาจรัฐ เพราะจนถึงวันนี้ยังไม่เห็นความกล้าหรือความจริงใจที่จะตรวจสอบรัฐบาลภูมิใจไทย แต่กลับโทษพรรคเพื่อไทยว่าเป็นฝ่ายแค้น หากพรรคเพื่อไทยพร้อมยื่นอภิปรายซักฟอก ก็ไม่ควรเอาการแก้รัฐธรรมนูญ 4 เดือนมาเป็นเกราะกำบัง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าร่าง รธน. ที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมย่อมไม่เกิดขึ้นได้ เมื่อยังมีร่างของภูมิใจไทยและ ส.ว. ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเป็นคนของพรรคใด”
ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าวย้ำว่า วันนี้ประชาชนตาสว่างแล้วจาก “ดีลส้ม–น้ำเงิน” พรรคประชาชนไม่ควรแกล้งมองไม่เห็น เพราะฝ่ายค้านที่แท้จริงต้องกล้าเผชิญหน้าอำนาจรัฐ ไม่ใช่กลัวเสียดีลทางการเมือง
“พรรคประชาชนควรกลับมาอยู่ข้างประชาธิปไตย ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ซักฟอกตรวจสอบรัฐบาลอุ้มบุญ เพราะประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกจำว่าตอนไหนจะยึดหลัก และตอนไหนจะทำเป็นลืม” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว