ไม่พบผลการค้นหา
เมื่อวานนี้ “ธนกร วังบุญคงชนะ” โทรโข่งประจำตัว “อุตตม สาวนายน” ออกมาสรรเสริญ “อุตตม” ยกใหญ่ว่า “ผมนับถือหัวใจท่านจริงๆ คนดี มีฝีมือ ซื่อสัตย์สุจริตเหมือน “ลุงตู่” นี่แหละที่สังคมไทยต้องการ ผมไม่ได้ชมท่านเพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชา แต่ผมชมท่านเพราะมันสัมผัสได้จริงๆ”

นั่นว่าหวานแล้ว ทว่าฉากกราบของ “ส.ส.วัฒนา สิทธิวัง” ส.ส.ป้ายแดง จังหวัดลำปาง ไปยังตักของ “ธรรมนัส” นั้น ถือว่าหวานเลี่ยนยิ่งกว่า และสะท้อนบารมีของ “รัฐมนตรีสีเทา” ในเวลานี้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อปลายปีที่แล้ว “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนประจำทำเนียบว่า “เทามนัส”

โดยสื่อมวลชนให้เหตุผลประกอบว่า “แม้คดีความต่างๆ จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การถูกขุดคุ้ยล่าสุดทั้งเรื่องคดียาเสพติดในต่างประเทศและวุฒิการศึกษายังทำให้คนกังขา ไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใส รวมถึงการทำหน้าที่มือประสานสิบทิศทางการเมืองก็ยังถูกครหาเรื่องการซื้อตัว ส.ส. พรรคเล็กและดีลการเมืองกับฝ่ายค้านอีกด้วย”

แทนที่ชะตากรรม “ธรรมนัส” จะตกต่ำลง แต่ก็ปรากฏว่า ผลงานเข้าตา “ผู้มีอำนาจ” ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคว้าชัยในสนามเลือกตั้ง จังหวัดลำปาง

ทำให้ “พรรคพลังประชารัฐ” มี ส.ส. รวมทั้งสิ้น 119 ที่นั่ง ถือเป็นการรับขวัญ “ประวิตร” อย่างยิ่งใหญ่ ก่อนขึ้นเป็น “หัวหน้าพรรค” ในเร็ววันนี้

เหมือนที่เมื่อคืนนี้ “ธรรมนัส” ยกหูนำเรียน “ว่าที่หัวหน้าพรรค” เป็นคนแรก ถึงชัยชนะขาดลอยในสนามเลือกตั้ง

ไม่นานมานี้ เมื่อปรากฏว่า “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ได้ส่งความเห็นของ ส.ส. 51 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ว่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

อันเป็นผลจากถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่า “ถูกศาลออสเตรเลียตัดสินว่า มีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติด สั่งจำคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับประเทศไทย จึงมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10)”

ก็ปรากฏว่า ศาลรับคำร้อง แต่ไม่ได้มีมติให้ “ธรรมนัส” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.หรือรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่า “ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องยังไม่มีเหตุอันควรสงสัยที่จะมีคำสั่ง”

สาธารณชนถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อได้ยินผลการพิจารณาทำนองนี้ ซึ่งผิดกับกรณี “ธนาธร” เป็นอย่างมาก

แม้ชะตากรรม “ธรรมนัส” จะลุ่มๆ ดอนๆ แต่ “ผู้อำนาจ” ไม่ได้หยุดใช้งาน-ไม่ได้ปรับออกจากตำแหน่ง-ไม่ได้ลดบทบาททางการเมือง

ธรรมนัส พรหมเผ่า

ล่าสุด มีแนวโน้มว่า ในวันที่ 3 ก.ค. อันเป็นวันประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ นอกจากจะได้เห็น “ประวิตร” ผงาดนั่ง “หัวหน้าพรรค” เคียงไปกับ “อนุชา” ในตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค” แล้ว ก็จะได้เห็น “ธรรมนัส” ผงาดในตำแหน่ง “รองหัวหน้าพรรค” อีกด้วย

ทั้งกระแสข่าวก็ชัดว่า ในการปรับ ครม. หนนี้ ไม่มีปรับ “ธรรมนัส” ออก มีแต่จะปูนบำเหน็จให้ได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงยิ่งขึ้นไป เพราะที่ผ่านมา ถือเป็น “มือประสาน-มือทำงาน” ทั้ง “บนดิน-ใต้ดิน” ของ “ผู้มีอำนาจ” รวมถึงผลงานการดัน “ประวิตร” จนขึ้นเป็น “หัวหน้าพรรค” ได้สำเร็จในที่สุด

การเลือกตั้งเมื่อคราวปี 2562 “พรรคพลังประชารัฐ” ได้ขุนศึกคนสำคัญของ “ทักษิณ” ไปอยู่เคียงกาย นั่นคือ “ตระกูลรัตนเศรษฐ” พร้อมเครือข่ายการเมืองยกชุดใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา ผนึกรวมกำลังแถบอีสานอีกหลายสิบเขตเลือกตั้ง

“ตระกูลรัตนเศรษฐ” เข้าสภาฯ ยกครัว ทั้ง “วิรัช” ในตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. พ่วงตำแหน่งสำคัญ “ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)”

ภรรยา ลูกๆ และน้องภรรยา คว้าชัยใน 4 เขตเลือกตั้ง นั่นคือ “ทวิรัฐ” ที่เขต 4 โคราช, “อธิรัฐ” ที่เขต 6 โคราช, “ทัศนียา” ที่เขต 7 โคราช และ “ทัศนาพร” ที่เขต 8 โคราช

วิรัช

บารมีของ “วิรัช” ยังขยายแผ่ไปไกลถึงจังหวัดใกล้เคียงทั้งที่ ชัยภูมิ-บุรีรัมย์-สุรินทร์-เลย รวมแล้วหลายสิบเขตเลือกตั้ง

การยึดโคราช-เจาะอีสานแตก เป็นผลงานสำคัญของ “ตระกูลรัตนเศรษฐ”

โดยเหตุดังนี้ “ผู้มีอำนาจ” จึงตบรางวัลอย่างดีให้ “ตระกูลรัตนเศรษฐ” ด้วยการผลักดัน “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” ลูกชายคนโตของ “วิรัช-ทัศนียา” นั่งบังเหียน “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม” ในวัย 35 ปี ถือเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในรัฐบาลประยุทธ์

ทั้งยังส่งผลให้ลูกคนที่สามของ “วิรัช” นั่งครองอีกตำแหน่ง นั่นคือ “ตติรัฐ รัตนเศรษฐ” นั่งตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติหน้าที่ “เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม”

ก่อนไล่เรียงประวัติเทาเทา มิพักต้องชมไว้ก่อนว่า หากแวะไปชมเพจ “บ้านรัตนเศรษฐ” จะเห็นสายสัมพันธ์ระหว่าง ตัว ส.ส. กับ ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่-ระบบราชการ เป็นอย่างดี จนสามารถผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ในโคราชอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “ถนน-แหล่งน้ำ” ขนานไปกับการปูพรมพบปะประชาชนทั้งวงเล็ก-กลาง-ใหญ่

ตัว “อธิรัฐ” เอง แม้เป็น “รัฐมนตรีกระทรวงใหญ่” แล้ว ก็ลงพื้นที่ต่อเนื่องมิได้ขาด

ทุกโพสต์ในแฟนเพจ ยังติดแฮชแท๊กด้วยว่า #ขวัญใจคนรากหญ้า #ทุ่มเททำงานทั้งครอบครัว #ครอบครัวรัตนเศรษฐ

ภาพจากเพจ "ครอบครัวรัตนเศรษฐ"
  • ภาพจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ "ครอบครัวรัตนเศรษฐ"

พายุลูกใหญ่ จะโหมกระหน่ำไปยัง “ตระกูลรัตนเศรษฐ” ในไม่ช้านี้ อันเป็นผลจากคดีทุจริตการสร้างสนามฟุตซอล จังหวัดนครราชสีมา

แม้คดีจะเงียบหายไปนานหลายปี แต่กลับมากระหน่ำอีกครั้ง ด้วยความพยายามของ “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ได้ยื่นหนังสืออัยการสูงสุดเร่งรัดคดี “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส. พลังประชารัฐ ถูกกล่าวหาว่าทุจริตสร้างสนามฟุตซอลโคราช หลัง “ป.ป.ช.” ชี้มูลความผิดส่งสำนวนให้ “อัยการ” พิจารณา แต่ผ่านมา 5 เดือนไม่คืบ

“คดีนี้ ป.ป.ช. ใช้เวลาการสืบสวนสอบสวนนานกว่า 8 ปี และมีมติชี้มูลความผิดเป็นเอกฉันท์ 9-0 จากนั้นได้ส่งสำนวนมาให้อัยการพิจารณาแล้ว แต่ผ่านมา 5 เดือน คดียังไม่มีการดำเนินการหรือหารือกับทาง ป.ป.ช. จึงต้องการมาเร่งรัดติดตามคดี เพราะไม่อยากให้คดีที่มีผู้ต้องหาซึ่งอยู่ฝั่งรัฐบาลมีความล่าช้าหรือหลุดคดี”

“สำนักข่าวอิศรา” รายงานเพิ่มเติมว่า “ความคืบหน้าล่าสุดกรณีนี้ มีข้อมูลยืนยันว่า คณะทำงานร่วมฯ มีมติเห็นควรสั่งฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ กับพวก ในคดีดังกล่าวแล้ว โดยเสนอเรื่องไปยัง อสส. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้ท่าทีของฝ่ายอัยการในช่วงหลัง ไม่เผยแพร่ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวมากนัก อาจเกิดจากปัจจัยของตัวผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นนักการเมืองระดับชาติ และเป็นแกนนำสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่อยากเผยแพร่ข่าวออกไป เพราะกังวลว่าอาจเผชิญแรงกดดันทางการเมือง อยากให้รอขั้นตอนถึงที่สุดคือ อสส.ลงนามสั่งฟ้องก่อน จึงแถลงอย่างเป็นทางการ”

อ่านต่อ ฉากหลังคดีฟุตซอล! คณะทำงานร่วมฯอัยการ-ป.ป.ช.เห็นควรสั่งฟ้อง‘วิรัช’-วัดใจ อสส.ชี้ขาด https://www.isranews.org/article/isranews-scoop/89493-isranews-30.html

เมื่อเร็วๆ นี้ “สนธิ ลิ้มทองกุล” จัดรายการ โดยไล่เรียงเป็นฉากๆ ถึงคดีความของ “วิรัช” พร้อมตบท้ายด้วยการถามหา “จริยธรรมทางการเมือง” จาก “ผู้นำในรัฐบาล-พรรคร่วม”

คดีความของ “วิรัช” ที่จำต้องมีบทจบในเร็ววันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งมาตรวัด บารมีของ “ประวิตร” อีกหน ทว่าหาก “บิด” จากข้อเท็จจริง ซึ่ง ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดเป็นเอกฉันท์ 9-0 ไปแล้ว ก็เตรียมรับก้อนหินจากสาธารณชนได้ทันที

เหมือนกับกรณี “ธรรมนัส” แม้ว่า “วิรัช” จะมี “ประวัติสีเทา” ถึงเพียงนี้ แต่ก็เตรียมรับการปูนบำเหน็จอีกครั้งให้เป็น “รองหัวหน้าพรรค” สอดรับกับตำแหน่งของ “ลูกชายคนโต” ที่อาจได้รับการขยับให้สูงขึ้นในระดับ “รัฐมนตรีว่าการ” หรือ “ได้คุมกรมฯ ที่ใหญ่ขึ้น-งบมากขึ้น” กว่าที่เป็นอยู่เวลานี้

ชัช เตาปูน-ชัชวาล คงอุดม

อีกหนึ่งกระแสข่าวยังพัดพามาว่า “ชัช เตาปูน” หรือ “ชัชวาลล์ คงอุดม” หัวหน้าพรรคพรรคท้องถิ่นไท ได้ส่งสัญญาณขอมีตำแหน่งในโผ ครม. ชุดใหม่

อ้างเหตุ สัดส่วน ส.ส. เปลี่ยน จากการที่ได้ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เพิ่มมา 2 คน รวมเบ็ดเสร็จมี ส.ส. 5 คน

พร้อมเปรียบเทียบว่า พรรคชาติพัฒนา มี ส.ส. เพียง 3 คน ก็ได้รัฐมนตรีไป 1 ตำแหน่ง นั่นก็แปลว่า การมี ส.ส. 5 ที่นั่ง ย่อมได้เปรียบ และมีโอกาสจับจองเก้าอี้รัฐมนตรีในหนนี้

เผยกระทรวงในใจอีกว่า “กระทรวงที่พรรคอยากเข้าไปดู คือกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะมีความเชื่อมโยงกับท้องถิ่น แต่คงเป็นแค่รัฐมนตรีช่วย โดยนายชัชวาลล์ คงอุดมจะเป็นผู้นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีเอง”

ทั้งหมดนี้ ทำให้สาธารณชนบ่นกันกระหน่ำโลกออนไลน์ทำนองว่า “เป่านกหวีดแทบตาย สุดท้ายได้รัฐมนตรีสีเทา”

หรือถึงที่สุดแล้ว “จริยธรรมทางการเมือง” จะเป็นเพียงข้ออ้างใช้กำจัดศัตรูทางการเมืองเท่านั้น!! .

วยาส
24Article
0Video
63Blog