วันที่ 18 ม.ค. อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิดใน จ.สุพรรณบุรี ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิดที่จ.สุพรรณบุรี ประเทศไทยเรามีเหตุการณ์จากโรงงานพลุระเบิดและโรงงานเก็บดอกไม้ไฟระเบิดมาหลายครั้งมากและเกิดถี่ขึ้นในช่วงหลัง ตนเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการปรับปรุงกฎระเบียบการขออนุญาตตั้งโรงงานผลิตพลุดอกไม้ไฟทั่วประเทศเสียใหม่
ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เดิมที พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรมกำหนดไว้ว่า เครื่องจักรที่น้อยกว่า 50 แรงม้า หรือมีคนงานน้อยกว่า 50 คนไม่ต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นโรงงานผลิตพลุและดอกไม้ไฟส่วนใหญ่จะอยู่นอกเหนือการตรวจสอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถึงแม้จะเรียกว่าโรงงาน แต่กรมโรงงานอุตสาหกรรมไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากอยู่นอกเหนือกฎหมาย แต่หลังจากเกิดเหตุโรงงานพลุดอกไม้ไฟระเบิดอยู่บ่อยครั้งได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องสังคายนากฎระเบียบนี้เสียใหม่
อัครเดช กล่าวว่า จากนี้ไปจะต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ออกใบอนุญาตมาประชุมหารือว่าถึงเวลาจะต้องแก้ไขระเบียบใหม่หรือยังเพื่อให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาเป็นหน่วยงานหลักในการติดตามตรวจสอบโรงงานผลิตพลุและดอกไม้ไฟหรือไม่ อย่างไร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้แรงงานในโรงงานผลิตพลุและดอกไม้ไฟ รวมถึงบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบริเวณโรงงานผลิตพลุและดอกไม้ไฟ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ และสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งกมธ.อุตสาหกรรมจะรับเรื่องนี้มาพิจารณาเพื่อเสนอให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป เราจะปล่อยให้เกิดเหตการณ์ระเบิดในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้