'เชอรี่' วรรณพร ศรีทรัพย์ เป็นหญิงสาวเจ้าเนื้อ น้ำหนัก 80 กิโลกรัม ชอบกินของหวาน ไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่มีแพสชั่นและจุดเปลี่ยนในรูปร่างของตัวเอง
กระทั่งวันหนึ่งเสียงดนตรีดุ่มๆ แดนซ์ๆ ของคนข้างบ้านปลุกให้เธอลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
“อดีตเคยพัง ไปสู่ปัจจุบันยั่วๆ จ้า” เธออธิบายตัวเองพร้อมส่งเสียงหัวเราะ เมื่อน้ำหนักเหลือเพียง 52 กิโลกรัม ภายใน 1 ปี
สาววัย 27 เป็นอดีตพนักงานประจำบริษัทเอเจนซีโฆษณา มีหน้าที่มอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลมีเดีย “อยู่แต่หน้าจอ ไม่ค่อยได้ลุกเดินหรือออกกำลังกายค่ะ”
เธอชอบการกิน โดยเฉพาะของหวานเป็นอย่างมาก “เลิฟเบเกอรี่” เธอบอกมันมีผลต่อสมาธิและความสุขในการทำงาน
“เราทำงานอยู่กับความรวดเร็ว เร่งรีบ เรากินเพื่อยับยั้งสติตัวเอง ลดความเครียด และทำให้จดจ่ออยู่กับงาน”
ด้วยไลฟ์สไตลชีวิตภายใน 1 ปี เธอพาอาหารต่างๆ สะสมในร่างกาย จากน้ำหนัก 60 กิโลกรัม ไปสู่ 70 และ 80 ในที่สุด
“เรามีความสุขในการกินนะ และพอไปถึง 80 เราก็เริ่มคิดเหมือนกันว่า จะท้าทายตัวเองด้วยการไปให้ถึง 100 กิโลฯ แล้วค่อยลดความอ้วนดีไหม น่าจะสนุกดี” เชอรี่บอกถึงสิ่งที่เคยตั้งใจแต่ไม่ได้ลงมือทำ
ใครจะไปคิดว่าข้อเสียของหมู่บ้านทาวน์เฮ้าส์กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของร่างกาย
“บ้านข้างๆ เปิดเพลงดังมาก เลเวลเดียวกับงานปีใหม่ เพลงแดนซ์เหมือนอยู่ในผับ เราก็ฟังมันทุกวัน จนได้ยินเสียงเขานับ 1 ถึง 8 เราก็เลย อ๋อ...เก็ตฟิวเลยว่ามันออกกำลังกายอยู่นี่หว่า” เธอเล่าจุดเริ่มต้นการออกกำลังกาย
3 เดือนจากนั้นเชอรี่อาศัยเพลงและจังหวะของคนข้างบ้าน เวลา 18.00-19.00 น. จัดการรูปร่างของตัวเอง เมื่อบวกกับการควบคุมอาหารรวมถึงการเลิกรากับแฟน น้ำหนักของเธอหายไปถึง 10 กิโลกรัม
“เรากินแค่ 3 อย่าง ข้าว โปรตีน และผัก กินแบบเจ้าที่ คือน้อยมาก ไม่ได้เน้นคุณภาพที่แท้จริง ตั้งใจแค่กินให้น้อยลง ออกกำลังกายในท่าที่ไม่ปวดเข่า เพราะน้ำหนัก 80 กก. จะไปคาดิโอแบบเบเบ้ (ดารา) ก็ไม่ได้ ต้องหาท่าที่เหมาะสม ดูว่าเราต้องการลดจุดไหนเป็นสำคัญ”
การลดน้ำหนักลงไปมากทำให้ร่างกายของเชอรี่เริ่มย้วย ไม่กระชับ และถึงเวลาที่ต้องสร้างกล้ามเนื้ออย่างจริงจัง
“ตอนจะไปสมัครเข้าฟิตเนส โคตรจะเขินคนเลย มันขยับตัวไม่คล่อง ทำอะไรก็ช้า เรารู้สึกแบบจะไปเป็นเป้าสายตาหรือภาระคนอื่นหรือเปล่า แล้วพอไปเจอสภาพแวดล้อมจริงๆ มันไม่มีแรงกดดันอะไรเลย
"ตรงนั้นคือที่ของคนที่มีเป้าหมายเหมือนกัน ไปลดน้ำหนัก ไปทำให้ตัวเองดูดีขึ้น ไปเจอคนที่มีแพสชั่นเดียวกัน”
ผ่านไปอีก 3 เดือนจากความ ‘พยายาม’ กลายเป็น ‘ความเคยชิน’ และ ‘ความสุข’ ทุกวันนี้เธอน้ำหนักเหลือเพลง 52 กิโลกรัม ใบหน้าเล็กเรียว รูปร่างดี ดูรวมๆ แล้วสุขภาพดีมีเสน่ห์กว่าก่อน
ทั้งนี้เชอรี่ย้ายจากหมู่บ้านเดิมที่มีเพื่อนบ้านเป็นแรงผลักดันไปสู่หมู่บ้านใหม่ตั้งแต่เมื่อครบ 3 เดือนของการออกกำลังกาย แต่สิ่งที่ไม่หลุดออกจากเธอคือวินัยและเป้าหมายที่ชัดเจน
พนักงานออฟฟิศสาวบอกว่าจุดชี้ขาดสำคัญในการลดหุ่นคือวินัยและความคิดเชิงบวก
“นอกจากคุมอาหารแล้วยังต้องคุมอารมณ์ มีวินัย รักตัวเองมากพอที่จะไม่เปิดโอกาสทำในสิ่งที่หลุดออกจากเป้าหมาย ‘กินหน่อยวะ วันนี้หิวว่ะ’ คิดได้แต่อย่าแพ้ ต้องให้กำลังใจตัวเอง ‘ผอมก่อนค่อยกิน ยังไม่ใช่เวลาของแก’ คุยกับตัวเองไว้” เชอรี่บอกโชคดีที่เป็นคนไม่ติดเพื่อน ปิดโอกาสถูกโน้มน้าวจากคนรอบข้างไปมาก
“สู้กับตัวเองเท่านั้น” เธอเน้น
รูปร่างที่ดีขึ้นยังเหมือนเป็นใบเบิกทางไปสู่ความมั่นใจ สดใส และมีชีวิตชีวา
“มีโอกาสได้แชร์พูดคุยเรื่องลดน้ำหนักกับกลุ่มออกกำลังกายต่างๆ จากตอนอ้วนๆ เราก็จะเป็นคนปลีกวิเวกไม่ค่อยสุงสิงกับใคร”
กิจกรรมหลักทุกวันนี้ของเชอรี่คือการสนุกสนานในฟิตเนส หลั่งสารเอ็นโดรฟินให้ซึมซ่านไปทั่วร่างกาย รับประทานอาหารวันละ 2 มื้อ คือช่วง 10.00 น. และ 16.00 น. เพื่อให้มีแรงไปทำงานและออกกำลังกาย
“ตอนอ้วนมันก็สุขแบบหนึ่ง สุขกับการกิน แต่ตอนนี้มันก็สนุกกับการใช้กำลัง สดชื่น พร้อมตื่น พร้อมออกไปเจอคน เจองาน รวมถึงมีความสุขที่ได้แชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้คนอื่นได้เรียนรู้” เธอทิ้งท้าย “ชนะใจตัวเอง ชนะได้ทุกสิ่ง”
ภาพจากอินสตาแกรม sher_ries , ภาพปกจาก pixabay เพื่อประกอบข่าว