ไม่พบผลการค้นหา
'ปชป.' ชี้ สภาล่มกระทบภาพลักษณ์สภา ปชช. ไม่พอใจ ส.ส.-ส.ว. แนะผู้ทำล่ม ตอบคำถามสังคม

วันที่ 14 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบเมื่อเกิดเหตุการณ์สภาล่มว่า แน่นอนที่สุดว่าเมื่อสภาล่ม ประชาชนย่อมรู้สึกไม่พอใจการทำหน้าที่ของ ส.ส. และ ส.ว. และองค์กรรัฐสภาโดยรวมที่ประชาชนเลือกตั้งให้มาทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนในสภา แต่ไม่ทำหน้าที่ สมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ควรต้องช่วยกันปรับปรุงแก้ไขไม่ให้สภาล่มเกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส. และ ส.ว. โดยรวม ถึงแม้จะมี ส.ส. และ ส.ว. ส่วนหนึ่งอยู่ประชุมสภาตามปกติ แต่เมื่อมีการนับองค์ประชุมแล้ว มี ส.ส. และ ส.ว. อยู่ไม่ครบเป็นองค์ประชุมจนทำให้สภาล่ม ผู้ที่อยู่ประชุมสภาก็ย่อมถูกตำหนิไปด้วย 

"เหตุการณ์สภาล่มจึงเป็นเรื่องที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาอย่างมาก ผู้ที่ไม่อยู่เป็นองค์ประชุมในสภาจนทำให้สภาล่มจึงต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า ไม่อยู่เป็นองค์ประชุมสภาเพราะอะไร อย่างไร" องอาจกล่าว

ส่วนที่มีการกล่าวว่า สภาล่มเพราะสองเผด็จการ คือเผด็จการรัฐสภา และเผด็จการทหารจับมือกัน ทำให้กฎหมายลูกออกมาเป็นประโยชน์กับพรรคการเมืองบางพรรคให้ได้เปรียบจากการเลือกตั้ง และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันในอนาคต

องอาจ ให้ความเห็นว่า ก็เป็นข้อมูลที่ต้องรับฟัง คงต้องติดตามต่อไปว่าการเคลื่อนไหวของ ส.ว. และ ส.ส. บางพรรคจะแสดงออกให้เห็นถึงความเป็นไปได้อย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ 

สำหรับที่มีการฟันธงกันว่า การประชุมสภาวันที่ 15 ส.ค. นี้ สภาล่มแน่นอนนั้น องอาจกล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ที่สภาจะล่มอีก เพราะมี ส.ว. และ ส.ส. จากบางพรรค ออกมาบอกว่าจะทำให้องค์ประชุมไม่ครบเพื่อทำให้สภาล่ม เพื่อต้องการให้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เป็นไปอย่างที่ตนต้องการ 

"แต่ไม่ว่าใครหรือบางพรรคการเมืองใดต้องการให้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ออกมาทำให้ได้เปรียบจากการเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ควรทำให้สภาล่ม แต่ควรทำให้สภาเดินหน้าประชุมไปได้ตามกระบวนการปกติ น่าจะเกิดผลดีต่อภาพลักษณ์สภา และเกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมมากกว่า" องอาจกล่าว