สืบเนื่องจากกรณีที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งข้อกล่าวหา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนาง พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ฐานร่วมกันยุงยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 กรณีที่ทั้ง 3 คน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กการปราศรัยกับนักศึกษา หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมทางการเมืองเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว

พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้นำสำนวนคดีดังกล่าว พร้อมนัดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน เดินทางไปพบพนักงานอัยการเพื่อรายงานตัว และฟังคำสั่งฟ้องในคดีดังกล่าว โดยก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ ปิยบุตร เปิดเผยว่า ที่พวกตนทั้ง 3 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 116 เชื่อว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิด เนื่องจากในสำนวนคำฟ้อง มีการกล่าวอ้างพฤติการณ์ของแต่ละคน เช่น กรณีของธนาธร นำเรื่องที่เคยมีการอภิปรายในสภา หรือการแสดงความเห็นทางวิชาการ มาชี้นำประกอบพฤติการณ์ที่ไปปรากฎตัวในการชุมนุมทางการเมือง บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อปีที่แล้ว

ยกกรณีธนาธรมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง

ส่วนของตนเป็นการนำบทความ หรือเนื้อหาสมัยที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และเรื่องที่เคยมีการเขียนลงในหนังสือฉบับหนึ่ง มาชี้นำว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ส่วนกรณีของพรรณิการ์ มีเพียงการไลฟ์สดเฟซบุ๊กในการชุมนุมดังกล่าวเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังได้ยกตัวอย่างหากนำข้อเท็จจริงดังกล่าว ไปออกข้อสอบในกลุ่มนิติศาสตร์ ก็เชื่อว่าทุกคนจะตอบคำถามในทางเดียวกันว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิด

แม้ว่าพนักงานสอบสวนจะไม่มีความเห็นงดสั่งฟ้อง หรือทำความเห็นแนบมากับสำนวนคดี ก็ตั้งความหวังว่าอัยการจะพิจารณาให้ความเป็นธรรม เช่นเดียวกับที่เคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแบบเดียวกับคดีของธนาธรก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคำถามกลับไปถึงกลุ่มนักร้องเรียน ว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองได้ตระเวนร้องทุกข์ไปตามหน่วยงานต่างๆ หรือไม่

ขณะที่ อิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวนเพิ่งนำสำนวนคำร้องส่งมาให้พิจารณาในวันนี้ พนักงานอัยการจึงยังไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริง จึงยังสรุปไม่ได้ว่า สมควรมีความเห็นทางคดีนี้อย่างไร ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเห็นควรนัดฟังคำสั่งคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น.