ไม่พบผลการค้นหา
‘ฟูอาดี้ พิศสุวรรณ’  แกนนำกลุ่ม Re-solution ชี้รัฐบาลเร่งรัดนำญัตติแก้รัฐธรรมนูญเข้าสภา เอื้อประโยชน์พรรคใหญ่ในการเลือกตั้ง มากกว่าแคร์ประชาชน

ฟูอาดี้ พิศสุวรรณ แกนนำกลุ่ม Re-solution กล่าวถึง กรณีที่รัฐสภาเตรียมรวบรัดพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ จนทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่า การที่ต้องการนำรัฐธรรมนูญกลับมาแก้ไขอย่างทันด่วน นั้นมีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญจากภาคประชาชน เพื่อเข้าไปพิจารณาในสภา แต่กลับถูก ส.ว. และ ส.ส ที่ต้องการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐบาลปัดตกอย่างไร้เยื่อใย

ฟูอาดี้ พิศสุวรรณo.jpeg

ฟูอาดี้กล่าวว่า หลายฝ่าย ทั้งภาคประชาชน พรรคร่วมฝ่ายค้าน และรวมไปถึง ส.ส. บางคนในพรรคร่วมรัฐบาลเอง น่าจะเห็นร่วมกันแล้วว่าจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราน่าจะเห็นแล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบังคับใช้อยู่เพื่อการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลหลังรัฐประหาร 2557 นับตั้งแต่ตอนเริ่มต้นก่อนที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะคลอดด้วยซ้ำ มีประชาชนจำนวนมากถูกดำเนินคดีเพราะออกไปรณรงค์โหวตโน และบรรยากาศประชามติก็อยู่ท่ามกลางอำนาจเผด็จการตามมาตรา 44 ของหัวหน้าคณะรัฐประหาร รัฐธรรมนูญฉบับนี้นอกจากที่มาไม่ชอบธรรมแล้ว เนื้อหาก็ไม่ชอบธรรมด้วย มีกลไกมากมายในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่สร้างมาเพื่อการสืบทอดอำนาจของ คสช. 

“การที่เราจะสร้างศรัทธาและพัฒนาสังคมประชาธิปไตยที่คณะรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจได้ทำลายลงไป จึงมีประเด็นมากมายที่จำเป็นต้องแก้ไขในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทั้งเรื่องวุฒิสภา เรื่ององค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และผลพวงการรัฐประหาร” ฟูอาดี้กล่าว

ฟูอาดี้กล่าวอีกว่า ล่าสุดพอรัฐบาลมีปัญหาทั้งเรื่องการแก้ปัญหาโควิดหรือเรื่องความช่วยเหลือเร่งด่วนต่อปัญหาเศรษฐกิจที่ด้อยประสิทธิภาพ ทำให้เริ่มมีสัญญาณและความเคลื่อนไหวว่ารัฐบาลอาจจะมีอายุไม่ครบเทอม นักการเมืองในรัฐสภาจึงพยายามรวบรัดตัดตอน รีบเร่งให้เกิดการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว 

“แต่เรื่องที่เสนอแก้ไขกลับไม่ใช่เป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องที่เป็นแก่นของปัญหา หรือเป็นเรื่องที่มีนัยยะสำคัญต่อการพัฒนาสังคมประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องผิวเผิน ตัวอย่างเช่น เรื่องระบบเลือกตั้ง และเรื่องการเพิ่มสิทธิ์คุ้มครองทางอาญาที่ถึงแม้อาจจะมองเป็นเรื่องเชิญบวก แต่ก็ไม่ได้แก้ถึงรากของปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2560 ซ้ำร้ายร่างที่พยายามผลักดันแบบลักหลับนี้ ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่สอดแทรกเข้ามาที่เป็นปัญหาอย่างมาก และที่ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคใหญ่ก่อนการเลือกตั้งเสียมากกว่า” ฟูอาดี้กล่าว 

ฟูดอาดี้กล่าวต่อว่า เช่น เรื่องการเพิ่มอำนาจของ ส.ส. และ ส.ว. ที่สามารถเข้าไปติดต่อเดินเรื่องกับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐและสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ รวมทั้งการให้ความเห็นชอบโครงการของหน่วยงานของรัฐได้อย่างไร้ขอบเขตมากขึ้น จากประเด็นที่ถูกนำเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็วทันด่วนนั้น อาจมองได้ว่าเป็นไปเพื่อการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคการเมืองใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปและอาจจะเป็นการเกี้ยเซียะกันเพื่อให้สมประโยชน์กับตัวเองและกลุ่มคนไม่กี่กลุ่มมากที่สุด แต่ประชาชนกลับไม่ได้อะไรที่สำคัญเลย

ฟูอาดี้กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องกันมา เช่นปัญหาเรื่องความไม่สมดุลของอำนาจกับที่มาของ ส.ว. การมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการแต่งตั้งองค์กรอิสระ อำนาจที่ล้นฟ้าของศาลรัฐธรรมนูญ หรือการเปิดโอกาสให้ยุทธศาสตร์ชาติกลายเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้าม กลับถูกมองข้ามอย่างไร้ซึ่งความเข้าใจและเคารพต่อสังคมประชาธิปไตยที่เท่าเทียม ที่ผ่านมาประชาชนคงได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่า เสียงเรียกจากประชาชนไม่ได้รับการพิจารณา หรือความจริงใจมากพอจากสภาทั้งสอง แต่เมื่อพรรครัฐบาลเอง อยากแก้รัฐธรรมนูญโดยเฉพาะเรื่องระบบเลือกตั้งขึ้นมาก็มีการเร่งทำทันที จนเกิดคำถามที่รัฐบาลควรชี้แจงคำตอบให้กับภาคประชาชนว่า การตัดสินใจนี้เป็นไปเพื่ออะไร หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่

“หากปัญหาในระดับโครงสร้างที่กระทบกับภาคประชาชนโดยตรงยังไม่ถูกพิจารณาและเร่งแก้ไข แต่มุ่งเน้นแต่จะเร่งแก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้ง และเพิ่มอำนาจให้กับตนเอง รัฐบาลคงต้องออกมาชี้แจงอย่างเร่งด่วนว่าการรวบรัดและเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้งในครั้งนี้ หากไม่เป็นการทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่มแล้ว การดำเนินการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเกิดผลประโยชน์แก่ประชาชนในมิติใดบ้าง อย่าลืมว่าผลประโยชน์ของภาคประชาชนย่อมมาก่อนกลุ่มคนไม่กี่คนเสมอ” ฟูอาดี้ กล่าวทิ้งท้าย

ธิษะณา ชุณหะวัณ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ แกนนำกลุ่ม Re-solution กล่าวถึง กรณีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรครัฐบาลว่า ข้อเสนอพยายามรวบหัวรวบหางแก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองใหญ่ในการเลือกตั้งครั้ง หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ปล่อยให้พรรครัฐบาลสามารถยื่นแก้ไขได้อย่างสะดวก ทิศทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะได้รัฐธรรมนูญตามที่ฝ่ายรัฐบาลสืบทอดอำนาจต้องการ ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศนี้ก็ยังมีอยู่ต่อไป สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกหย่อมหญ้า

“หากพวกเราปล่อยให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามร่างของพรรครัฐบาล ประเทศไทยจะยังมี ส.ว.250 คนที่สามารถมาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้อยู่ แล้วพวกเขาก็จะเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนของระบอบประยุทธ์อย่างไม่แตกแถวเหมือนที่ผ่านมา แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ก็ตาม และพวกเขาจะกระโดดป้องผลประโยชน์ของชนชั้นนำ ขัดขวางผลประโยชน์และร่างกฎหมายของประชาชน หากพวกเขาเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นจะขัดขวางผลประโยชน์และลดอำนาจของพวกเขาเอง ทั้งๆ ที่การมี ส.ว.250 คนไม่ได้มีประโยชน์กับประชาชน และเป็นอุปสรรคขัดขวางประเทศ แต่ผลาญเงินภาษีของประชาชนปีละหลายพันล้านบาทด้วย” ธิษะณา ระบุ

ธิษะณา กล่าวต่อไปด้วยว่า ประเทศไทยก็ยังจะมีองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่อิสระจากประชาชน แต่ไม่อิสระจากคณะรัฐประหารสืบทอดอำนาจ ทำงานค้านสายตาประชาชน ปกป้องคนของระบอบประยุทธ์ กำจัดคนที่พวกเขาคิดว่าเป็นศัตรูทางการเมืองของระบอบ รวมทั้งประเทศของเราก็จะยังมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศที่เป็นโซ่ตรวนฉุดรั้งประเทศทำให้นโยบายที่สร้างสรรค์ ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ในประเทศแห่งนี้ และประเทศไทยก็อาจจะยังมีกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์ สมคบกันสร้างสถานการณ์ปูทางให้เกิดการรัฐประหาร เกิดวงจรอุบาทว์การรัฐประหารไม่จบไม่สิ้น สุดท้ายก็จะกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ละเมิดสิทธิและเสรีภาพ และใช้งบประมาณสุรุ่ยสุร่ายไม่เห็นหัวประชาชนเหมือนที่ผ่านมา

“อย่าปล่อยให้พวกเขาสามารถสืบทอดอำนาจภาค 2 ได้สำเร็จ มาร่วมกันเข้าชื่อรื้อระบอบประยุทธ์กันให้ถล่มทลายและรวดเร็วที่สุด เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศนี้ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนดีขึ้น ไม่ต้องเจอกับรัฐบาลเฮงซวยภาค 2 และเพื่อส่งเสียงบอกพวกเขาว่าหยุดลุแก่อำนาจ หยุดกินรวบประเทศ ประชาชนรู้ทันพวกเขาหมดแล้วว่าพวกเขาต้องการอะไร ประชาชนจะใช้เสียงของตัวเองขัดขวางกลุ่มคนที่เห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ประชาชนจะผลักดันร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนให้เป็นร่างแก้ไขหลักที่พิจารณากันในสภาแทนที่จะเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองที่มุ่งรวบหัวรวบหางแก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองใหญ่และกลุ่มคนไม่กี่คน แทนที่จะเป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ” ธิษะณา กล่าว

ธิษะณา ระบุว่าสืบเนื่องจากที่ พ.ร.บ. เข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2564 ประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายหรือร่างรัฐธรรมนูญต่อสภาได้สะดวกมากขึ้น ประเด็นสำคัญคือทำให้การเข้าชื่อเสนอกฎหมายง่ายขึ้น และมีหลากหลายช่องทาง รวมทั้งไม่ต้องมีเอกสารเยอะเหมือนเมื่อก่อน ไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน และสามารถส่งผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยที่ไม่ต้องส่งแผ่นกระดาษ ดังนั้น กลุ่ม Re-solution จึงเปิดช่องทางการเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลากหลายช่องทางผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถโหลดเอกสารแบบฟอร์มได้จาก https://bit.ly/3t04VTR เมื่อกรอกเอกสารและลงลายมือชื่อเรียบร้อยแล้ว จะถ่ายรูปส่งมาหรือส่งเป็นไฟล์ก็ได้ โดยสามารถส่งมาได้หลากหลายช่องทาง จะส่งผ่านไลน์ https://page.line.me/resolutioncon กล่องข้อความเฟสบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/resolutionconstitution/ กล่องข้อความทวิตเตอร์ https://twitter.com/ResolutionCons กล่องข้อความอินสตราแกรม @ResolutionCon อีเมล resolutionconstitution@gmail.com หรือส่งเอกสารทางจดหมายก็ได้ ที่ Re-Solution สำนักงานคณะก้าวหน้า 1768 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ชั้น 5 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง บางกะปิ เขต ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310