ไม่พบผลการค้นหา
หัวเว่ย (ประเทศไทย) ออกแถลงการณ์ย้ำเป็นพันธมิตรหลักของแอนดรอยด์ ยินดีทำงานร่วมโอเพ่นซอร์ซทั่วโลก

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ระบุในคำแถลงการณ์เมื่อเย็นวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า จากกรณีการนำเสนอข่าวของสํานักข่าวรอยเตอร์ เกี่ยวกับกูเกิลจะระงับการทำธุรกิจกับหัวเว่ยนั้น หัวเว่ยขอชี้แจงว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หัวเว่ยได้เป็นส่วนสำคัญในพัฒนาการและการเติบโตของแอนดรอยด์ทั่วโลก และในฐานะที่เป็นพันธมิตรรายหลักของแอนดรอยด์ในระดับโลกเราได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ซของพันธมิตรทั่วโลก เพื่อพัฒนาอีโคซิสเต็ม (ระบบนิเวศน์) ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ใช้และต่ออุตสาหกรรมนี้

หัวเว่ยขอให้ความมั่นใจว่าจะยังคงให้บริการอัพเดทซอฟท์แวร์ด้านความปลอดภัยและบริการหลังการขายแก่ผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตของหัวเว่ยที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมดต่อไป ครอบคลุมถึงโมเดลที่ได้จำหน่ายออกไปแล้ว และที่ยังรอการจัดจำหน่ายอยู่ในสต็อกทั่วโลก

เราขอยืนยันว่าจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างอีโคซิสเต็มของซอฟท์แวร์ที่ปลอดภัยและยั่งยืนเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสู่ผู้ใช้ทั่วโลก

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากกูเกิลออกแถลงการณ์ระบุว่า กูเกิลได้ระงับการดำเนินธุรกิจกับ 'หัวเว่ย' บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนในส่วนที่ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลของระบบฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ และการให้บริการทางด้านเทคนิคต่างๆ ตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย 

ส่วนด้านการใช้งาน กูเกิล ระบุว่า ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ให้บริการอยู่ในโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารของหัวเว่ยในปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ต่อไป แต่สมาร์ตโฟนของหัวเว่ยจะไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ของแอนดรอยด์ได้อีก รวมไปถึง Google Play Store, Gmail และ YouTube

ขณะที่ ข้อมูลจาก ไอดีซี บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยี เปิดเผยก่อนหน้านี้ ระบุว่า ในไตรมาสแรกปี 2562 หัวเว่ยมีส่วนแบ่งการตลาดในระดับโลกสัดส่วนร้อยละ 19 ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 2 ของผู้จำหน่ายโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามติดซัมซุง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 23.1 และแซงหน้าแอปเปิล ที่มีส่วนแบ่งร้อยละ 11.7 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ซัมซุง มีร้อยละ 18.7 แอปเปิลร้อยละ 18.2 และหัวเว่ย ร้อยละ 16.1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :