นางธิดา ถาวรเศรษฐ พร้อมด้วยนางสุดสงวน สุธีสร และกลุ่มมวลชนในนามอาสาสมัครตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้ง 2562 เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ขอให้ตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง และการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา
นางธิดา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของอาสาสมัครตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง พบความผิดปกติในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้จำนวน 11 ประเด็น โดยเฉพาะกรณีบัตรเกิน บัตรเสีย ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก จึงต้องการให้ กกต.ตรวจสอบและทบทวนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบัตรเสียนี้ รวมถึงต้องเร่งแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นจากการทำงานของ กกต.ก่อนหน้านี้ให้แล้วเสร็จ ก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562
เพราะหาก กกต. ไม่ดำเนินการใดๆจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงานและผลการเลือกตั้งที่ออกมา ซึ่งอาจส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต รวมถึงอาจนำไปสู่การร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งส่วนตัวประเมินการทำงานของ กกต.ในครั้งนี้ซึ่งสอบตก โดยให้คะแนนเพียง 20-30 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม
นางธิดา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทัศนคติของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงระเบียบของ กกต. คืออุปสรรคสำคัญในการทำงานตรวจสอบการเลือกตั้งของภาคประชาชนและตัวแทนพรรคการเมือง ที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่
ด้านนางสุดสงวน ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีบัตรเสียจากการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่มีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยขอเรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบและแก้ไขปัญหา เพราะไม่ใช่ความผิดของผู้ใช้สิทธิ์ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น กกต. ควรวินิจฉัยให้บัตรเลือกตั้งดังกล่าวเป็นบัตรดี
“ฟอร์ด เส้นทางสีแดง”พร้อม “เอกชัย หงส์กังวาน” ยื่นจดหมายเปิดผนึก ไม่เอาโกงเลือกตั้ง
นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ในนามกลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้ง พร้อมด้วยนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้ง ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ขอให้ตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า กลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้งพบการทุจริตซื้อเสียงในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีข้อมูลการซื้อเสียงในพื้นที่จากพรรคการเมืองหนึ่งในราคาหัวละ 500 บาท จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบและนับคะแนนในจังหวัดสมุทรปราการใหม่ทั้งหมด
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 พรรคพลังประชารัฐได้ที่นั่งเป็นอันดับ 2 ตามหลักสากลแล้วพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งจะต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้จำนวนส.ส. 117 คน ห่างจากพรรคเพื่อไทยถึง 18 คน แต่ปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐกลับอ้างว่าตนเองชนะเลือกตั้ง โดยอ้างจากจำนวนผู้ลงคะแนนให้ทั่วประเทศซึ่งไม่ถูกต้อง
จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน และเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐหยุดปล่อยข่าวสร้างความสับสนด้วยการยอมรับชัยชนะของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลดำเนินไปได้รวดเร็ว เพื่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้เข้าบริหารประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศโดยเร็วต่อไป
นายเอกชัย กล่าวว่า จนถึงวันนี้ กกต. ยังไม่ได้เปิดเผยผลคะแนน เพียงเปิดเผยรายชื่อผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละเขต ขณะเดียวกันยังไม่สามารถชี้แจงข้อสงสัยและข้อบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งมีทั้งกรณีที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง และการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา กกต. ต้องชี้แจงในเรื่องเหล่านี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
อย่างไรก็ตามในการทำกิจกรรมเพื่อให้ กกต.ตรวจสอบการทุจริตครั้งนี้ กลุ่มมวลชนที่เดินทางมาในครั้งนี้ได้ร่วมกันตะโกน “ไม่เอาการโกงเลือกตั้ง”ด้วย