วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงประเด็นการตัดไฟในพื้นที่ชายแดนไทย – เมียนมา เพื่อสกัดกั้นการดำเนินการของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสมช. เข้าร่วมประชุมด้วย
โดยรองนายกฯและรมว.กห.ภูมิธรรม เผยหลังประชุมว่า ที่ประชุมได้รวบรวมข้อมูลทุกส่วนแล้วเห็นว่า ‘เป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศและประชาชนไทยรุนแรง’ มีประชาชนทั้งหมด 557,500 กว่าคดี รวมเงิน 86,000 กว่าล้านบาท แต่ละวันมีความเสียหาย 80 ล้านบาท จึงมีมติ ‘ให้ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน’ บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา รวม 5 จุด ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจเป็นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป
"ซึ่งคืนนี้จะเซ็นคำสั่งเสร็จ แล้วแจ้งทุกส่วน โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะแจ้งไปยังรัฐบาลเมียนมา แจ้งหน่วยงานต่างๆ ไปแจ้งต่อยังโรงพยาบาลได้รับรู้ และเตรียมการทุกอย่างแล้ว พรุ่งนี้เวลา 9 โมง จะตัดทุกอย่างหมด" รองนายกฯและรมว.กห.ภูมิธรรม ระบุ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตามข้อมูล พื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่เป็นจุดเสี่ยงทั้ง 5 จุด ได้รับข้อมูลว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเมื่อฝ่ายไทยได้แจ้งแล้ว จากนี้ไปก็เป็นเรื่องรัฐบาลเมียนมาดำเนินการ เราไม่ได้มีการไปแทรกแซงอะไร ซึ่งมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ไปชี้แจงแล้ว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า รัฐบาลเมียนมาจะเข้าใจ และจะไม่ตอบโต้ด้วยการตัดแก๊สจนบานปลายใช่หรือไม่? นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เคยหารือกันซึ่งเขามีความเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยแต่เป็นปัญหาของนานาชาติ เพราะมีบุคคลหลายชาติถูกหลอกเข้าไปในนั้น
สำหรับพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่เป็นจุดเสี่ยงทั้ง 5 จุด ประกอบด้วย