ภายหลังอัยการ ยื่นฟ้อง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง พร้อมด้วย จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน, ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และแกนนำกลุ่มราษฎร รวม 18 คน ต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ตามมาตรา 215 และข้อหาอื่น ๆ
ในส่วนของ ปนัสยา, ภาณุพงศ์ และจตุภัทร์ เพิ่มความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 ด้วย รวมทั้งหมด 11 ข้อหา ในคดีร่วมกันชุมนุมภายในสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563
ศาลพิจารณาแล้วรับคำฟ้องไว้ในสารบบ จากนั้นสอบคำให้การพวกจำเลยทั้งหมด รวมทั้ง นายไชยอมร หรือแอมมี่ จำเลยที่ 13 ซึ่งขณะนี้ ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี เพื่อรักษาอาการป่วยโรคตา ระหว่างฝากขังคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ศาลได้สอบคำให้การผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐานทั้งสองฝ่ายต่อไปในวันที่ 15 มีนาคมนี้ เวลา 09.00 น.
ล่าสุด ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ปนัสยา, ภาณุพงศ์ และจตุภัทร์ โดยมีการคุมตัวขึ้นรถตู้ ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว ส่วนจำเลยที่เหลือ ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกันคนละ 35,000 บาท
ทันทีที่ครอบครัวของ ไมค์ ภาณุพงศ์ และไผ่ จตุภัทร์ได้ทราบผลว่าศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว และเจ้าหน้าทีราชทัณฑ์ได้คุมตัว 3 แกนนำคณะราษฎรไปยังเรือนจำ ทำให้ ครอบครัวของปนัสยา และภาณุพงศ์ ต่างโอบกอดร่ำไห้ด้วยความเสียใจบริเวณหน้าศาลอาญา
ขณะที่มารดาของจตุภัทร์ได้สวมกอด ผศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีมารดาของเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎรที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำก่อนหน้านี้ ได้เข้าโอบกอดพร้อมปลอบด้วยว่า "เราจะสู้ไปด้วยกัน" ทั้งนี้ มารดาของจตุภัทร์ได้เข้าไปโอบกอดและร้องไห้ร่วมกับบุตรสาวซึ่งเป็นน้องสาวของจตุภัทร์ด้วย
ด้าน ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ จากกลุ่มขอนแก่นพอกันที เปิดเผยภายหลังได้รับการปล่อยตัวว่าขอให้จับตาในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่อัยการจะมีคำสั่งฟ้องแกนนำคณะราษฎรในคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี ซึ่งจะมีผู้ต้องหาถูกฟ้องในข้อหามาตรา 112 มากที่สุดจำนวน 13 คน
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ ขอให้หน่วยงานของรัฐและ จนท.ที่เกี่ยวข้อง คำนึงสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของผู้ถูกจับกุม พิจารณาให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี