ไม่พบผลการค้นหา
'บ๊วย' เชษฐวุฒิ วัชรคุณ พิธีกรดัง เจ้าของรายการ ช่องส่องผี เตรียมหอบหลักฐาน แสดงความโปร่งใส วันที่ 6 ก.ค. นี้ ที่วัดสระเกศ หลังเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ออกมาเปิดโปงรายการหลอกลวงประชาชน หลอกขายเครื่องราง บุกรุกโบราณสถาน และรับบริจาคเงินแบบไม่โปร่งใส

เพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของ รายการ ช่องส่องผี ที่มี 3 พิธีกรดำเนินรายการคือ บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ, อ.เรนนี่ สุระประภา คำขจร และ เจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ นักวิชาการเดินเรือ นักกฎหมาย โดยระบุว่า รายการช่องส่องผีชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ แอบอ้างติดต่อในหลวง ร.9 ได้ หลอกหลวงประชาชนบูชาเหรียญปีศาจ ระดมทุนบริจาคไม่เปิดเผย Statement บุกรุกโบราณสถานสร้างความเดือดร้อนให้วัด

เนื้อหาในเพจแหม่มโพธิ์ดำ แจกแจงสิ่งที่มองว่าเป็นความไม่ชอบมาพากลของรายการออกเป็น 5 ข้อ โดยระบุว่า

"1. เรนนี่พิธีกรหลัก ผู้รู้ทุกอย่างเว้นเรื่องจริง แอบอ้างเคยประสบอุบัติเหตุ คอหัก แขนหัก ขาหัก ตายไปแล้วฟื้นมาได้ เลยเห็นผี สามารถติดต่อกับบูรพกษัติริย์หลากหลายพระองค์ เวลามีงานบวงสรวงที แอบอ้างว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 มาให้ศีลให้พร แล้วยังมีพระเจ้าตาก ร.3 สุนทรภู่ #สร้างตนเองเป็นเทวดา บิดเบือนประวัติศาสตร์ สร้างความเชื่อพิศดาร จนประชาชนนำของประหลาดไปบูชาที่วัดหรือโบราณสถาน จนหลายแห่งเดือดร้อน หลอกขายเครื่องรางปลุกเสกบูชาผี

2. ให้คนบูชากอร์กอน ที่หนึ่งในนั้นคือเมดูซ่า อสูรกายที่เกลียดมนุษย์ ต้องการทำลายทุกคนให้สิ้นซาก เป็นเหมือนผีปีศาจแห่งการทำลายล้าง ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ถูกเพอร์ซีอุสฆ่าตัดหัว จะเอามาบูชาอะไร ปากบอกเป็นพุทธศาสนิกชน แต่ตนเองบูชาผี หลอกขายเหรียญผีให้คนเอาไปบูชาราคาแพง

3. พอคนหลงชื่นชม ก็เปิดรับบัญชีบริจาคอ้างมหาบุญ ระหว่างเรี่ยไร เคยไปขออนุญาตให้ถูกต้องไหม แล้วถ้าอยากช่วยวัดทำไมไม่โอนเข้าวัดไปเลย จะช่วย COVID-19 ทำไมไม่โอนเข้าโรงพยาบาลโดยตรง ทำไมต้องให้บ๊วย เปิดบัญชีหลายบัญชีแล้วให้ประชาชนโอนหา แบบนี้เข้าข่ายฟอกเงินไหม Statement ก็ไม่กาง เงินเข้าเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จบเรื่องนี้ เปิดเรื่องใหม่ เอาเงินบริจาคชาวบ้านมา แต่ใส่ชื่อในใบอนุโมทนาชื่อตัวเอง ล่าสุดจะไปเปิดมูลนิธิช่องส่องผี ทีนี้ตรวจยากขึ้นไปอีก มูลนิธิบูชาผี แต่รับเงินไปช่วยวัด มันย้อนแย้งหรือไม่ เข้าข่ายหลอกประชาชนไหม กรมการศาสนา วานตรวจสอบ

4. เจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่ง เข้าแจ้งความรายการ เพราะถูกรายการช่องส่องผีกล่าวหาว่าพ่อเขาตายเพราะโกงกิน กลายเป็นวิญญานเปรต คือคิดจะพูดอะไรก็พูด ใส่ร้ายแม้กระทั่งคนตาย ส่วนตัวอยากให้เรนนี่ไปตรวจสุขภาพจิต เพราะดูอาการไม่ปกติ แต่บ๊วย เชษฐวุฒิ รู้ทั้งรู้ กลับเอาคนแบบนี้มาตั้งช่อง หลอกลวงประชน

5. ใครท้วงติง รายการมึงฟ้องหมด คนแบบมึงต้องเจอคนแบบกู กูจะขุดให้ถึงแกนโลกเลย ตอนนี้ร่วมกับเพจ Anti สื่อรายการโทรทัศน์ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ชาติเรียบร้อย สมาชิกกลุ่มเขาก็เจอขู่ฟ้องหลายราย กูจะช่วยเขาขยี้มึงเอง"

แหม่มโพธิ์ดำ
  • ภาพจากเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ

ขณะที่ เฟซบุ๊ก ช่องส่องผี fanpage ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า รายการมีเนื้อหาที่มุ่งหวังให้คนเกรงกลัวต่อบาปกรรม​ และได้เรียนรู้เรื่องราวหลังความตายและประสบการณ์ผ่านการบอกเล่าของวิญญาณ ซึ่งต้องใช้วิจารณญานในการรับชม พร้อมยืนยันว่าสิ่งที่ทำ รวมถึงเรื่องที่อาจารย์เรนนี่เห็น กล้องเห็น ไม่มีการตัดต่อ ไม่มีสคริปต์ คนที่ไม่เชื่อไม่มั่นใจสามารถมาดูได้ หากยังสงสัย ไม่เคยปิดกั้นผู้ที่ต้องการเข้าชม

นอกจากนี้ รายการยังระบุว่า หากเป็นไปได้ นักวิชาการหรือใครก็ตามที่อยากมีส่วนร่วมหรือถกประเด็น ทางรายการยินดี สามารถติดต่อเข้ามาได้ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าอย่าทำสงครามคีย์บอร์ดสาดกันไปมา และเรื่องเงินทำบุญก็แยกให้ชัดเจน นำไปทำบุญตามจุดประสงค์ ส่วนเนื้อหาเต็มๆ มีดังนี้

"ขอชี้แจงประเด็น ดราม่า ทุกเรื่องนะครับ เนื่องจากตอนนี้ เราเข้าใจว่า เราเป็นจุดที่ทำให้คนสนใจ และสร้างกระแสสังคม ทำให้เกิดการ เขียนข่าว หรือการ พูดถึงในวงกว้างได้อย่างมาก เพราะการที่ทำรายการ ของเรา ทำให้เกิดกระแสบุญ และนำพาญาติธรรม ทั้งหลาย มาร่วมบุญกัน ก่อให้เกิดประโยชน์ ในเชิงการท่องเที่ยว กระแสคนเกรงกลัวต่อบาป คนละเว้นการฆ่าตัวตาย เข้าวัด ทำนุบำรุง ศาสนา สวดมนต์ รักษาศีล มารวมตัวกัน เป็น ครอบครัวช่องส่องผี ทำให้เป็นที่สนใจ และจับตาดูในวงกว้าง

รายการของเรา มีเนื้อหา ที่มุ่งหวังให้คนเกรงกลัว ต่อบาปกรรม​ และได้เรียนรู้เรื่องราวหลังความตาย และประสบการณ์ ผ่านการบอกเล่าของวิญญาณ ซึ่งแน่นอน ต้องใช้วิจารณญาน ในการรับชม แต่ในมุมมองของผม และคณะผู้ถ่ายทำ ทีมงาน และแขกรับเชิญ ที่มาร่วมรายการ หรือ ทุกคน ที่มาร่วมสังเกตการณ์ ทุกคนจะทราบดีกว่า เราเป็นรายการสด ไม่มีสคริป การตัดต่อเพื่อนำบันทึกเทป เป็นสิ่งที่น้อยมาก ที่จะตัดออก นอกจากบางครั้ง บางข้อความที่ออกไป เราไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น เพราะสาระสำคัญ และความตั้งใจของเรา คือความชัดเจน ให้ทุกคนเกรงกลัวต่อบาป อยากให้ทุกคนสะสมบุญ ซึ่งเราก็กลัวบาป มากกว่าอะไรทั้งมวล รายการสอนให้ทุกคนทำความดี ไม่พูดโกหก เรา และทีมงานก็เช่นกัน พร้อมที่จะให้ทุกคนเข้ามาตรวจสอบ ว่า เราทำอะไรอยู่

อาจารย์เรนนี่ มีหน้าที่สื่อสารกับวิญญาณ และถ่ายทอดซึ่งที่เห็นออกมาให้ทุกคนทราบ พี่บ๊วย เป็นพิธีกร เป็นตัวเชื่อม เรื่องราว ผมเป็นคน ที่นำภาพ ที่จับวิญญูญาณ หรือสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นพลังงานที่จับได้ออกมาให้ทุกคนเห็น เรื่องราวประวัติศาสตร์ ตามตำราที่ทุกคนทราบที่มาจากหลายๆตำรา หลายเรื่องก็ยังเป็นที่ถกเถียงกัน เราก็เป็นเรื่องเล่าประวัติศาสตร์อีกตำราหนึ่งซึ่งไม่สามารถอ้างอิงได้เลย เพราะเป็นคำบอกเล่าของวิญญาณ ซึ่งผู้ชมต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม

เราพูดเสมอในรายการ แต่เรายืนยัน ว่าสิ่งที่เราทำ เป็นเรื่องที่อาจารย์เรนนี่ เห็น กล้องเห็น ไม่มีการตัดต่อ ไม่มีสคริปท์จริงๆ ดังนั้น ขอเชิญชวนคนที่ไม่เชื่อ ไม่มั่นใจ มาดูได้ หากยังสงสัย เราไม่เคยปิดกั้น ให้ใครมาชม และหาก เป็นไปได้ นักวิชาการ หรือใคร น่าอยากมามีส่วนร่วมถกประเด็นทางเรายินดี สามารถติดต่อเข้ามาได้ เราพร้อมเสมอ และ ขอเถอะครับอย่าทำสงครามคีย์บอร์ดสาดกันไปมาเลย ไม่น่ารัก ที่เราไม่ออกมาพูดหรือนิ่งเฉย เพราะเรายึดมั่นในความดี ทำหน้าที่ของเราต่อไป ยอมรับครับว่าบางครั้งไม่อยากเอาพลังงานลบ มาใส่ใจ

แต่ขอเถอะ อย่าหาว่าเราโกหก อย่าหาว่าเราโกง เพราะสิ่งเหล่านั้น เป็นการกล่าวหา เราสามารถดำเนินคดีกับทุกคนได้ เอกสารหลักฐานทางบัญชี เราชัดเจนมากๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ เราแยกชัดเจน นำมาทำบุญตามจุดประสงค์ ที่แจ้งไว้ เงินรายได้ที่ขายของ เราก็แจ้งว่านำมาทำรายการ เราแยกคนละบัญชีอยู่แล้ว เพราะเราทำรายการ เราก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ที่จะทำรายการดีๆออกมาให้ทุกท่านได้ชม

ขอบคุณทุกท่าน เราไม่คิดว่ารายการเล็กๆ ที่มีทีมงาน ไม่ถึง20 คน จะทำให้เกิดกระแสสังคม ทำให้ทุกคน ร่วมกันลงมาเล่นข่าวโจมตีเรา ขอเราอยู่ในที่ของเราและทำความดีต่อไปเถอะครับ หากท่านใด ไม่หยุด อยากเข้ามาชม เราก็เชิญที่กองถ่ายทำได้เลยครับ แต่ถ้ายังไม่หยุดพูดความไม่จริงที่ทำให้เราเสียหาย เราก็พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเราจะทำเท่าที่จำเป็นกับคนที่กล่าวหาเราจริงๆ คนที่พิมพ์ตามอารมณ์ โดยไม่ไตร่ตรอง เชื่อตามที่อ่านมาเราเข้าใจ แหละอโหสิกรรมให้ทุกท่าน"

ด้าน บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว วอยซ์ออนไลน์ โดยระบุว่ารายการเตรียมนำหลักฐานทั้งหมด พร้อมชี้แจงความบริสุทธิ์ใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ในวันที่ 6 ก.ค. เวลา 9.00 น ที่ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งวันนั้นเขาพร้อมทีมรายการได้ไปจัดกิจกรรมถวายเทียนพรรษา โดยเป็นกิจกรรมที่เตรียมงานไว้ล่วงหน้า และอยากชี้แจงทุกกรณีในวันนั้นทุกอย่างทีเดียว โดยยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าการทำรายการดังกล่าว ตั้งใจทำให้สังคมได้ประโยชน์

ทั้งนี้ พิธีกรคนดัง ยังได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว คำสอนของ สมเด็จเกี่ยว "เริ่มต้นอะไร ให้ตั้งอยู่ในบุญไว้ก่อนเมื่อทุกอย่างเริ่มต้นจากบุญแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวอะไร"