เหตุระเบิดขนาดใหญ่ที่ท่าเรือใจกลางกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 78 รายและมีผู้บาดเจ็บจากแรงระเบิดมากกว่า 4,000 ราย เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจะเพิ่มขึ้นอีก
แรงระเบิดอานุภาพสูงก่อเกิดคลื่นช็อกเวฟทำกระจกหน้าต่างแตกกระจาย พื้นดินสั่นสะเทือนทั่วเมืองหลวง อาคารบ้านเรือนพังเสียหายยับเยินเป็นวงกว้าง อาคารบ้านเรือนในรัศมี 10 กม. ได้รับความเสียหาย รถยนต์จำนวนมากถูกทำลาย ผู้คนมากมายติดอยู่ในซากอาคาร
'ฮัสซัน ดิอาบ' นายกรัฐมนตรีเลบานอน กล่าวว่า สาเหตุหลักของการระเบิดในครั้งนี้คือ 'สารแอมโมเนียมไนเตรท' ซึ่งถูกเก็บไว้ในโกดังท่าเรือสินค้ามานานกว่า 6 ปี และไม่มีมาตรการควบคุมความปลอดภัยในโกดังดังกล่าว
ทั้งนี้ทางการเลบานอนประเมินว่า ภายในโกดังนั้นเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรทไว้มากถึง 2,750 ตัน
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเลบานอนได้ออกมาเรียกร้องให้หาผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยชี้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับไม่ได้ และยังกล่าวว่า ควรมีการประกาศสภาวะฉุกเฉินในกรุงเบรุตเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ สำหรับหายนะครั้งนี้
เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้ 'นาซาร์ นาจาเรียน' เลขาธิการพรรค Kataeb พรรคการเมืองของกลุ่มชาวคริสต์เลบานอนเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บด้วยแรงระเบิด โดยช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเขานั่งทำงานอยู่ในสำนักงานของตนเอง
ปฏิกิริยาจากนานาชาติ
สถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงเบรุตออกแถลงการณ์แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากและให้อาศัยอยู่ในบ้านเท่านั้น รวมถึงให้ติดตามรายงานสถานการณ์แก๊สพิษ ซึ่งเกิดจากการระเบิด
ด้านอิสราเอล หนึ่งในประเทศที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับเลบานอนมาตั้งแต่ปี 2492 (ค.ศ. 1949) ยังไม่มีคำแถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทางอิสราเอลเสนอการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพร้อมให้ความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์แก่เลบานอน ซึ่งถือเป็นท่าทีที่สำคัญของอิสราเอลในครั้งนี้
โฆษกของศูนย์แพทย์ในเมืองซาเฟดของอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลพร้อมให้การรักษาและความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดในเลบานอน
ส่วน สหราชอาณาจักร ตุรกี กาตาร์ และสเปน เสนอความช่วยเหลือและให้การสนับสนุนแก่รัฐบาลเลบานอน ในขณะที่ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสกำลังส่งทีมช่วยเหลือเดินทางไปยังเลบานอน
ด้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่เป็นกลุ่มติดอาวุธของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ในเลบานอน ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ และระบุด้วยว่าไม่ได้เกิดจากการยิงจรวดใส่เป้าหมายแต่อย่างใด เหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้จะต้องอาศัยความเป็นเอกภาพของชาวเลบานอนทุกคนในการเอาชนะภัยพิบัติ
กต. เผยไม่พบคนไทยเจ็บ-ตายจากเหตุระเบิด
ด้านเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศติดตามเหตุระเบิดในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน อย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานสถานการณ์จากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรับผิดชอบดูแลประเทศเลบานอน ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า เบื้องต้น มีคนไทยอาศัยอยู่ในเลบานอนประมาณ 200 คน ซึ่งยังไม่พบว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือพบความสูญเสียต่อทรัพย์สินจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกระทรวงฯ จึงสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ประสานงานกับสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงเบรุต เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ส่วนสาเหตุการระเบิดนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางการเลบานอน จึงยังไม่มีการสรุปว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุหรือเป็นการก่อการร้าย
ที่มา Reuters / CNN / The guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: