ไม่พบผลการค้นหา
'ปารีณา' นำชาวราชบุรี ยื่นหนังสือ 'รมช.ธรรมนัส' ขอที่ดิน 500 ไร่ คืนจาก 'สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ' ชี้เอกสารสิทธิที่ถือครองไม่ใช่ น.ส.3 ก ฟากเจ้าตัวเผย พร้อมคืนที่ดิน 450 ไร่มอบให้เป็น 'ป่าชุมชน' ตามชาวบ้านขอมาตั้งแต่เดือน ก.ค. แต่ติดเรื่องกระบวนการเปลี่ยนชื่อในเอกสารประเภท น.ส. 2 -ภ.บ.ท. 5

นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พร้อมด้วยชาวบ้าน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ยื่นหนังสือถึง ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีขอที่ดิน 500 ไร่ คืนจากนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากเอกสารสิทธิที่ถือครองไม่ใช่ น.ส.3 ก หรือ น.ส.3

ทั้งนี้ นางสาวปารีณาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวได้เป็นตัวแทนชาวบ้าน เนื่องจากที่ดังกล่าวไม่สามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้ เพราะเข้าลักษณะป่าชุมชุน แต่กลับพบว่ามีผู้นำไปใช้เพื่อหาประโยชน์ ทางด้านนายสมบูรณ์ ไทยทอง ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่เดิมที่ดินนี้เป็นของสหกรณ์ แต่พบว่าที่ผ่านมาทั้งบริษัทและบุคคลทั่วไปมาซื้อขายกันมาหลายครั้ง

ขณะที่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า น่าจะเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินของชาวบ้าน ทั้งนี้ตนขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่านายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

'สมพร' ยืนยันพร้อมยกที่ดินให้เป็น 'ป่าชุมชน' แต่ขอเวลาดำเนินการเอกสารให้ถูกต้อง

นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดเผยกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า ที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ตนซื้อต่อมาจากบริษัท มิตรผล ตั้งแต่ปี 2534 และถือครองมาตลอด 28 ปี โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 3,500 ไร่ ซึ่งขณะที่ซื้อมามีหลักฐานกรรมสิทธิ์หลายแบบ ทั้งที่เป็น น.ส. 3ก, น.ส. 3, น.ส. 2 และ ภ.บ.ท5 และตลอดเวลาที่ถือครองมาตลอด 28 ปี ตนไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ แต่ให้เจ้าหน้าที่ที่บริษัทดูแลเรื่องเอกสาร โดยมีครอบครัวคนเก่าคนแก่ของมิตรผลอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว 2 ครอบครัว ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา

กระทั่ง เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ติดต่อผ่านคนดูแลที่ดินมาแจ้งตนว่า ที่ดินแถบนั้นมีลักษณะเป็นที่ป่าสงวนและต้องการแปลงที่ดินแถบนั้นเป็นป่าชุมชนของหมู่บ้าน ซึ่งน่าจะใช้เนื้อที่ประมาณ 400-450 ไร่ ซึ่งตนได้ให้เจ้าหน้าที่และทนายไปพูดคุยพร้อมกับแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ยินดียกพื้นที่ดังกล่าวให้กับชุมชน แต่เนื่องจาก สภาพที่ดินเนื้อที่ 400 ไร่เศษนั้น แบ่งเป็นเอกสารประเภท น.ส. 2 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ กับ ภ.บ.ท. 5 จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ 100 ไร่ ต้นขั้วไม่ใช่ชื่อของตน จึงให้ทนายและเจ้าหน้าที่ไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่า ต้องหาเจ้าของเดิมเพื่อดำเนินการเปลี่ยนชื่อให้เรียบร้อย จึงจะทำให้กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของชุมชนอย่างถูกต้อง

"เวลาที่ผ่านมา ได้ให้เจ้าหน้าที่และทนายความหารือกับผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่มาตลอดในเรื่องกระบวนการส่งมอบ เพื่อให้ถูกต้อง เพราะดิฉันบอกตั้งแต่วันแรกที่มีคนมาแจ้งแล้วว่า ฉันยกให้ ไม่ติดขัดเลย แต่เพราะชื่อเดิมไม่ใช่ชื่อดิฉัน ดังนั้นก็ต้องจัดการเรื่องกระบวนการเอกสารให้เรียบร้อยก่อน แต่พอมามีประเด็นนี้ ดิฉันก็พร้อมจะชี้แจง และหากกล่าวหาดิฉันมากกว่านี้ ดิฉันก็พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย" นางสมพร กล่าว