ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีการจัดกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" โดยมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรม โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนกว่า 500 คน สวมเสื้อยืดสีขาว และเสื้อยืดสีแดง สีส้ม สีดำ สกรีนข้อความ"วิ่งไล่ลุง เชียงใหม่" เข้าร่วมกิจกรรม"วิ่งไล่ลุง" ที่ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีมวลชนจากกลุ่มต่างๆ อาทิ เพจเฟซบุ๊ก “วิ่ง ไล่ ลุง เชียงใหม่” ที่มีนางสาวกัญสพัฒน์ อัศวรุจานนท์ เป็นแกนนำ , นายวีระชัย กิตติวาณิชย์ (ลุงอาข่า) “เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก อาข่า ยูเอสเอ สนับสนุนประชาธิปไตยและความเท่าเทียมกัน , นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ (ฟอร์ด เส้นทางสีแดง) , ด.ต.หาญศักดิ์ เบญจศรีพิทักษ์ (ดาบชิต) แกนนำ นปช.เชียงใหม่ และนายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้าร่วม
ขณะที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ มีการนำเสื้อยืดเขียนข้อความ"วิ่งไล่ลุง" มาจำหน่ายให้กับชาวเชียงใหม่ที่มาร่วมกิจกรรมตัวละ 200 บาทด้วย
จากนั้นในเวลา 06.30 น. นักวิ่งทั้งหมดได้ออกสตาร์ทจากข่วงประตูท่าแพ ก่อนวิ่งเข้าฝั่งคูเมืองด้านในมุ่งไปยังแจ่งศรีภูมิ -ประตูช้างเผือก เลี้ยวขวาเข้าถนนพระปกเกล้า ผ่านอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ -ประตูเชียงใหม่-เลี้ยวซ้ายผ่านแจ่งกะต๋ำ วกกลับมาที่ข่วงประตูท่าแพ รวมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
โดยกิจกรรมการวิ่งไล่ลุงเชียงใหม่ครั้งนี้ ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง นักวิ่งเริ่มทยอยวิ่งกลับมายังข่วงประตูท่าแพ เพื่อร่วมตัวกันประกาศเจตนารมย์เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกันบริเวณข่วงประตูท่าแพก็มีการจัดกิจกรรม"รณรงค์แก้ไขปัญหาฝุ่นควัน และผลกระทบจากไฟป่าในเขตเมือง" ซึ่งมีการตั้งเวทีขึ้น โดยกิจกรรมจะเริ่มในเวลา 08.30 น. มีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วม ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายร้อยนาย
ขณะที่นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ได้เรียกระดมมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อจัดกิกจรรมเดินรณรงค์ไล่ลุง และเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ในขณะที่ตำรวจก็เรียกระดมพลเพื่อเตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาฝุ่นควันฯ ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงหยุดการใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อให้ทางกลุ่มดำเนินกิจกรรมต่อ ก่อนจะเดินขบวนออกจากข่วงประตูท่าแพไป
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุง ริเริ่มโดยกลุ่มนักศึกษาที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนได้เข้าไปมีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์จนกระจายไปทั่วประเทศ สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ ตนเองเป็นผู้ที่แจ้งเรื่องไปยังตำรวจว่าจะมีการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเชียงใหม่ และใช้เวลาเพียง 6 วันในการประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้ชาวเชียงใหม่มาร่วมงานโดยกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้เพื่อเรียกร้องการแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเองได้ไปยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาเรียบร้อยแล้ว
นายอนุรักษ์ ยืนยันว่า การวิ่งและการเดินรณรงค์ครั้งนี้ทำอยู่ภายใต้กรอบฎหมายเนื่องจากก่อนจัดงานได้ไปยื่นขออนุญาตใช้พื้นทีข่วงประตูท่าแพถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 5 และวันที่ 7 มกราคม พร้อมกันนี้ ก็ได้ไปยื่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมาด้วย
พิษณุโลกจัดวิ่งไล่ลุงมวลชน 200 คนแห่ร่วม
ที่เวทีสวนชมน่านฯ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เช้ามืดมีมวลชนในจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 200 กว่าคน ได้มาร่วมตัวกันเพื่อร่วมกิจกรรม วิ่งไล่ลุงจังหวัดพิษณุโลก มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีหลากหลายเพศวัย ทั้งเด็ก เยาวชน คนทำงานและผู้สูงอายุ จำนวนหนึ่งสวมเสื้อวิ่งไล่ลุง อีกจำนวนหนึ่งสวมชุดกีฬาออกกำลังกายทั่วไป และมีส.ส.พิษณุโลกเขต 1 พรรคอนาคตใหม่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ ส.ส.อ๋อง พร้อมทีมงานเข้าร่วมด้วย
การจัดวิ่งไล่ลุงในจังหวัดพิษณุโลก อาจจะไม่ได้ขึ้นชาร์ตการจัดวิ่งไล่ลุงทั่วประเทศ แต่ได้มีการนัดหมายกันทางออนไลน์ ในเพจ วิ่งไล่ลุง พิษณุโลก ที่มีแกนนำในการจัดวิ่ง คือนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวรจำนวน 9 คน ได้ร่วมกันจัดทำเพจและนัดแนะมวลชนมาร่วมกิจกรรมในวันนี้
นายวรชิต กาญจนกำเนิด นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร แกนนำจัดวิ่งไล่ลุงจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เป็นการดำเนินการโดยนิสิต คนรุ่นใหม่ จัดทำกิจกรรมวิ่งไล่ลุงพิษณุโลก โดยเปิดเพจออนไลน์ขึ้นมาเพื่อนัดแนะมวลชน และได้ใช้สวนชมน่านฯ เป็นสถานที่จัดวิ่ง ในลักษณะวิ่งเพื่อสุขภาพ จึงไม่ได้ขออนุญาตจากทางการแต่อย่างใด ใช้เส้นทางวิ่งภายในสวน 2 รอบ ตั้งแต่เวทีสวนชมน่านฯ ผ่านสะพานนเรศวร และสะพานเอกาทศรถ ระยะทาง 4.4 กิโลเมตร
ขณะที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เขต 1 พิษณุโลก หรือ ส.ส. อ๋อง ที่มาร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เปิดเผยว่า วิ่งไล่ลุงพิษณุโลก พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เป็นแกนนำในการจัด ทราบข่าวจากทางเพจมีน้อง ๆ นิสิต ม.นเรศวร เป็นผู้ดำเนินการ จึงแชร์กิจกรรมมายังเพจตน และมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย
สำหรับบรรยากาศวิ่งไล่ลุงพิษณุโลก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีการตรวจสอบจากทางการ จะมีก็เพียงเจ้าหน้าที่การข่าวนอกเครื่องแบบที่มาร่วมกิจกรรมและสอบถามถึงที่มาที่ไปรวมถึงเฝ้าสังเกตการณ์การจัดกิจกรรมในวันนี้
ชาวอุดรรวมตัวกันวิ่งไล่ลุงรอบสวนสาธารณะวังมัจฉาหนองบัว
ที่ลานดอกบัว สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติมหาราชินี วังมัจฉาหนองบัว ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีกลุ่มคนนัดรวมตัวกันผ่านทางโซเชียลราว 70 คน เพื่อทำกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" แต่ไม่มีใครแสดงตัวเป็นแกนนำในการวิ่งไล่ลุงครั้งนี้ จากการสอบถามได้คำตอบว่า วันนี้มีการจัดกิจกรรมนัดรวมตัว "วิ่งไล่ลุง" กันทั่วประเทศ โดยมี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจกว่า 20 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาคอยดูแลรักษาความสงบจนกิจกรรมดังกล่าวแล้วเสร็จ
โดยบรรยากาศของกิจกรรม เริ่มทำกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" เวลา 06.45 น. จากลานดอกบัวไปทางทิศตะวันออกของสวนสาธารณะ พร้อมกับร้องตะโกนว่า วิ่งไล่ลุง และออกไปเป็นระยะ พร้อมกับทำสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วไปตลอดเส้นทางรอบสวนสาธารณะฯ และร่วมกันถ่ายภาพที่ลานดอกบัว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นวิ่ง โดยทำสัญลักษณ์ ชู 3 นิ้ว ร้องตะโกน "วิ่งไล่ลุง" 3 ครั้ง ก่อนที่กลุ่มผู้ทำกิจกรรมบางส่วนจะเกินทางกลับบ้าน บางส่วนทำกิจกรรมต่ออีก 1 รอบ ก่อนจะพากันสลายตัวไป เวลา 08.30 น.
ผู้เข้าร่วม เล่าว่า "เช้าวันนี้เรานัดมากัน วิ่งไล่ลุง ลุงที่ไม่ยอมลาออกไปสักที คนเขาเบื่อกันจะตายอยู่แล้ว ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ สำนึกของความเป็นคนควรจะออกไปได้แล้ว หรือมีความคิดก็ควรจะลาออกไปได้แล้ว เพื่อประเทศชาติตามที่เขาเคยพูดไว้ ควรย้อนกลับมามองตัวเองว่าทำอะไรไว้บ้าง และทำอะไรให้ประเทศยังไงบ้าง หากคุณมีสำนึก มีจริยธรรมอยู่ ก็ควรจะรู้ว่าควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร รวมทั้งผู้ที่ให้การสนับสนุนเขา ก็ควรรู้อยู่แก่ใจตัวเองว่าพวกคุณทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง ผ่านไป 100-200 ปี ลูกหลานคุณจะอยู่อย่างไร
ชาวอุบลราชธานีกว่า 400 คน ร่วม "วิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งไล่ลุงเก็บขยะ"
เมื่อเวลา 05.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งไล่ลุง เก็บขยะ บริเวณด้านหน้าศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี เป็นได้ด้วยความสงบเรียบร้อยปราศจากอาวุธ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคงอย่างเข้มงวด และไม่อนุญาตให้มีการให้ใส่เสื้อที่มีข้อความหมิ่นเหม่การต่อต้านรัฐบาลหรือขัดต่อ พรบ.ชุมนุมสาธารณะ แต่ก็ไม่เป็นผลยังมีกลุ่มประชาชนที่ยืนยันใส่เสื้อวิ่งไล่ลุง โดยอ้างว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ นอกจากการสวมเสื้อที่มีข้อความ วิ่งไล่ลุงแล้ว ยังมีกลุ่มประชาชนที่สวมเสื้อสีแดง มีรูปสกรีนภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หน้าอกซ้ายและด้านหลังอีกด้วย
กิจกรรมเริ่มจากการ ตัวแทนกลุ่ม นำวอร์มร่างกายประมาณ 20 นาที ก่อนปล่อยตัวในเวลา 06.00 น.ใช้เส้นทางในการวิ่งประมาณ 5 กิโลเมตร จากด้านหน้าศาลหลักเมืองอุบลราชธานี มุ่งหน้าตามถนนอุปราช เข้าถนนชยางกูร ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี ก่อนกลับเข้าเส้นทางเดิม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจราจรและฝ่ายความมั่นคงคอยอำนวยความสะดวกเรื่องความปลอดภัยจนสิ้นสุดในเวลา 08.00 น.
สำหรับกิจกรรมการวิ่งในครั้งนี้ มีผู้ให้ความสนใจทั้งในร่วมกิจกรรมหลากหลายช่วงอายุ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่สนใจแสดงออกทางด้านการเมืองจะสวมเสื้อมีข้อความวิ่งไล่ลุง กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มวัยกลางคนและเป็นผู้สูงอายุสวมเสื้อสีแดงมีการกรีนภาพอดีตนายกฯทักษิณ ทั้งนี้ยังมีนักการเมืองระดับประเทศและท้องถิ่นบางคนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
วิ่งไล่ลุงโคราช สตาร์ท 4 โมงเย็น คาดมีคนมาร่วมกว่า 700 คน
จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “ วิ่งไล่ลุง โคราช ” ได้โพสต์ถึงความคืบหน้าของการย้ายพื้นที่ในการวิ่งไล่ลุง เพราะเจอการสกัดกั้นจากนายอำเภอจังหวัดนครราชสีมา จึงจำเป็นจะต้องย้ายสถานที่จัดกิจกรรมฯ อีกเป็นครั้งที่ 2 จากลานบริเวณสวนอนุสรณ์สถานวีรชน ใกล้กับลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่แรกสุดที่กำหนดจัดกิจกรรมเอาไว้ จนในที่สุด ต้องย้ายสถานที่จัดงานมาเป็นสวนภูมิรักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ลานย่าโม) และสวนอนุสรณ์สถานวีระชน ทางอำเภอเมืองนคราชสีมา และเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ใช้สถานที่จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ และการแสดงดนตรีของเยาวชน ระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2563 นั้น
ล่าสุด นายกฤติพงศ์ ปานสูงเนิน แกนนำกลุ่มวิ่งไล่ลุงโคราช เปิดเผยว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุง ที่ จ.นครราชสีมา จะมีการจัดขึ้นแน่นอนวันนี้ ที่สวนภูมิรักษ์ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้ทางทีมงานได้รับหนังสือจาก สภ.เมืองนครราชสีมา ให้สามารถจัดกิจกรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอให้ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมสบายใจได้ โดยกิจกรรมจะมีการใช้รถยนต์ 3 คัน เครื่องเสียง 1 เครื่อง และโทรโข่ง 5 ตัว เพื่อสื่อสารกับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม ซึ่งจะเริ่มรวมพลกันในเวลา 14.00 น. ระหว่างนี้จะมีการขายเสื้อวิ่งไล่ลุงโคราช ให้กับผู้ร่วมกิจกรรมที่สนใจนำไปสวมใส่ขณะวิ่งด้วย หลังจากนั้นเวลา 16.00 น. จะเริ่มวิ่งไปรอบสวนภูมิรักษ์ 3 รอบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา คอยดูแลความสงบเรียบร้อยให้ ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีผู้ให้ความสนใจจะมาร่วมกิจกรรมแล้วกว่า 700 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :