ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล.) ขอชี้แจงตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2562 โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อว่า "อนุวัต จัดให้" ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์บนเรือประมงไทย ที่กำลังนำปลาโลมาปากขวดจำนวนหลายตัวขึ้นบนเรือประมง บางส่วนตาย บางส่วนทิ้งลงทะเล นั้น ซึ่งในคลิปได้ระบุข้อมูลเบื้องต้นว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นสันนิษฐานจากการสนทนาของไต๋เรือและลูกเรือที่บางคำเป็นภาษาไทย กับได้ระบุว่าเรือประมงลำดังกล่าวได้ออกเรือจากพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งประเทศ
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในฐานะหน่วยงานตามพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 มีอำนาจหน้าที่และรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วทราบว่า
เรือประมงลำดังกล่าวเคยเป็นเรือประมงที่เคยจดทะเบียนในประเทศไทย ชื่อเรือ ส.พรเทพนาวี ๙ หมายเลขทะเบียนเรือ 302102291 ขนาด 99.98 ตันกรอส จดทะเบียนครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดระยอง
เจ้าของเรือคนสุดท้ายคือ นายสุรัตน์ บัวผุด มีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี มีการแจ้ง PIPO ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 พ.ย.59 และ 28 พ.ย.58 ตามลำดับ ณ ศูนย์ควบคุม การแจ้งเข้าออกเรือประมงจังหวัดปัตตานี
ต่อมา นายสุรัตน์ ฯ ได้ทำการขายเรือประมงลำดังกล่าวให้กับ นายโมฮัมหมัด ฮามีร์ บินอาซิม ชาวมาเลเซีย (รัฐตรังกานู) และกรมเจ้าท่าได้ถอนทะเบียนเรือประมง ส.พงเทพนาวี ๙ ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว เมื่อวันที่ 29 พ.ค.60 ซึ่ง นายโมฮัมหมัด ฮามีร์ บินอาซิม ได้ไปยื่นขอจดทะเบียนตามกระบวนการของมาเลเซียเรียบร้อย (KNF7779)
อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดทางกฎหมาย (การนำปลาโลมาปากขวดจำนวนหลายตัวขึ้นบนเรือประมง) เนื่องจากโลมาเป็นสัตว์คุ้มครอง และ พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 กำหนดโทษรุนแรง และกรมประมงก็มีการออกประกาศ "สัตว์ห้ามนำขึ้นเรือประมง" ซึ่งรวมโลมาอยู่ด้วย โดยยกเว้นในกรณีจำเป็นเพื่อการช่วยชีวิต
เร่งสอบข้อเท็จจริง น่านน้ำไทยหรือมาเลฯ
ดังนั้น ขณะนี้จึงให้ ศรชล.ภาค 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ที่เกิดเหตุดังกล่าวเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าปัจจุบันเรือประมงสัญชาติมาเลเซีย KNF 7779 (ส.พงเทพนาวี ๙) มีแหล่งพำนักและทำการประมงในพื้นที่ใด เคยเข้ามาในเขตของประเทศไทยหรือไม่ และเหตุการณ์นำปลาโลมาปากขวดขึ้นบนเรือประมงอยู่ในพื้นที่อาณาเขตทางทะเลของประเทศไทยหรือไม่
หากกระทำผิดในทะเลอาณาเขตไทยจริง ให้ดำเนินการติดตามจับกุมดำเนินคดีในการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล หากพบผู้กระทำผิดต่างๆ ในทะเล หรือที่มีผลกระทบต่อทะเลให้แจ้งต่อหน่วยงานใน ศรชล. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในพื้นที่ได้แก่ ศรชล.ภาค และศรชล.จังหวัด