สามในสิบของมหาเศรษฐีที่รวยขึ้นเท่าตัวตลอดการระบาดของโดวิด-19 นั้น มีชื่อรวมถึง อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้ง Tesla และ SpaceX เจฟ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon รวมถึง บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้ง Microsoft ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวยขึ้นรวมกันกว่า 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 50 ล้านล้านบาท)
จากรายงานของ Oxfam เปิดเผยว่า 10 มหาเศรษฐีของโลกมีสินทรัพย์มากขึ้นจนทำให้พวกเขารวยกว่าคนจนทั่วโลก 3.1 พันล้านคนกว่า 6 เท่าตัว ทั้งนี้ จากสถิติเปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา มีมหาเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ในทุกวัน ในขณะที่มีคนกว่า 160 ล้านคนกลายเป็นคนยากจนตลอดการระบาดที่ผ่านมา
จากรายงานระบุว่า ความยากจนได้คร่าชีวิตผู้คนจำนวน 21,000 รายต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารโลกใช้ตัวชี้วัดความยากจนที่เส้นรายได้ 5.50 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 183 บาท) ต่อวัน ในประเทศรายได้ปานกลางระดับบน ในขณะที่การระบาดทำให้ประเทศกำลังพัฒนาเป็นหนี้สาธารณะมากขึ้นเพื่อตอบรับกับสถานการณ์การระบาด
ทั้งนี้ Oxfam ได้อ้างตัวเลขรายงานการจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2563 จากทาง Forbes ที่มีการใช้ตัวเลขจากทางเครดิตสวิสและธนาคารโลก นอกจากนี้ Oxfam ได้เรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆ เก็บภาษีจากมหาเศรษฐีทั้งหมดเพียงครั้งเดียวด้วยอัตรา 99% เพื่อนำมาเป็นทุนในการผลิตวัคซีนให้แก่ประเทศยากจน ในฐานะส่วนหนึ่งของการตอบรับกับปัญหาความไม่เท่าเทียมที่เกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดการระบาดของโควิด-19
“การระบาดเป็นขุมทรัพย์ทะเลทรายของมหาเศรษฐี” กาบริเอลลา บูแชร์ ผู้อำนวยการของ Oxfam ระบุ “เมื่อรัฐบาลต่างๆ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ และเพิ่มเงินล้านล้านเข้าไปในระบบเศรษฐกิจและตลาดการเงิน เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ทุกคน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เงินจำนวนมากไหลเข้ากระเป๋ามหาเศรษฐี”
การเก็บภาษีจำนวน 99% กับ 10 มหาเศรษฐีที่รวยขึ้นกว่าเท่าตัวตลอดการระบาด จะสามารถเรียกเก็บเงินได้กว่า 8 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 27 ล้านล้านบาท) ที่จะสามารถนำมาบริหารจัดการกับความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะปัญหาการเข้าถึงวัคซีนของชาติยากจน บูแชร์ระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าว “สามารถจ่ายค่าวัคซีนให้กับทั้งโลกได้ ตลอดจนการจัดการระบบสาธารณสุขแก่ทุกคน เราจะสามารถจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และนโยบายรัฐในการจัดการความรุนแรงทางเพศได้”
Oxfam ยังเปิดเผยอีกว่า ความคิดการเก็บภาษีคนรวยของทางองค์กรไม่ได้นำเสนอขึ้นมาอย่างลอยๆ เพราะในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐฯ และจีน สองประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดในโลกกำลังมีนโยบายเพิ่มการเก็บภาษีคนรวย เพื่อป้องกันการผูกขาดทางตลาดของมหาเศรษฐีเหล่านี้
“จุดของความไม่เท่าเทียมอย่างสุดขั้วนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสิ่งนี้จะนำความหวังมาให้แก่เรา” บูแชร์กล่าว ทั้งนี้ Oxfam เดินหน้ารณรงค์เรียกร้องความเท่าเทียมจากคนรวยและชนชั้นนำทางการเมืองระดับโลกมาโดยตลอด
ที่มา: