ปิดฉากลงแล้ว สำหรับงานจัดแสดงด้านการบินและอวกาศครั้งใหญ่ของโลก ‘ฟาร์นเบรอ อินเตอร์เนชันแนล แอร์โชว์’ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ โดยปีนี้หลายหน่วยงานได้นำเทคโนโลยีใหม่มาเปิดตัวกันอย่างมากมาย
ฟาร์นเบรอ อินเตอร์เนชันแนล แอร์โชว์ เป็นนิทรรศการด้านการบินและอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นทุกสองปี โดยปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ถึง 22 กรกฎาคม ที่สนามบินฟาร์นเบรอ เมืองแฮมป์เชียร์ ประเทศอังกฤษ และมียานยนต์สุดล้ำมาเปิดตัวในงานมากมาย
โดยไฮไลต์ของงาน หนีไม่พ้นบริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ทั้ง ‘โบอิง’ และ ‘แอร์บัส’ ที่มียอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์รวมกันมากกว่า 900 ลำ คิดเป็นเงินราว 140 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4 ล้านล้านบาท สำหรับแอร์บัสมียอดสั่งซื้อสินค้าทั้งหมด 431 ลำ ซึ่ง 304 ลำเป็นเครื่องบินตระกูล A320 ทางฝั่งของโบอิง เครื่องบินที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ Boeing 737 MAX ที่ขายไปได้มากกว่า 12 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 4 แสนล้านบาท โดยผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่า ภายใน 20 ปี อุตสาหกรรมเครื่องบินพาณิชย์จะต้องใช้เครื่องบินประมาณ 30,000 - 40,000 ลำ ซึ่งจีนจะขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดเครื่องบินในอนาคต
ภายในงานยังมีการจัดแสดงอากาศที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เช่น Phasa-35 ที่พัฒนาโดยบริษัท BAE Systems และบริษัท Prismatic ในอังกฤษ ที่สามารถบินได้โดยไร้คนขับ และสามารถใช้งานได้นานเป็นปี กว่าจะเข้าซ่อมบำรุงต่อไป ซึ่งเหมาะที่จะนำไปใช้งานในภาคพลเรือนและกองทัพ นอกจากนั้น ยังมีการจัดแสดงผลงานที่จะนำมาใช้แทนเทคโนโลยีดาวเทียมได้ ไม่ว่าจะเป็น อากาศยานที่สามารถบินได้ในระดับสูงและมีความคงทนสูงอย่าง Zephyr S ของแอร์บัส รวมถึง ‘โดรนอวกาศ’ ที่พัฒนาโดยบริษัท Effective Space Solution ในอังกฤษ ซึ่งเตรียมปล่อยสู่อวกาศในปี 2020
ด้านแบรนด์รถหรู ‘แอสตัน มาร์ติน’ ได้เปิดตัวแนวคิดในการออกแบบเครื่องบินส่วนตัวสุดหรูขนาดสามที่นั่ง ซึ่งขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยระบบไฮบริด เพื่อบินจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองได้ในระยะทางสั้น ๆ ด้วยความเร็วประมาณ 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ ‘โรลส์-รอยซ์’ ก็เตรียมสร้างแท็กซี่บินได้โดยใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสามารถบินได้ที่ความเร็วประมาณ 400 - 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง