หลังจากนี้จะมีการรณรงค์และมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับการลดขยะพลาสติกมากขึ้น เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบโรดแมป 12 ปีการจัดการขยะพลาสติกในประเทศไทย

แคมเปญ ‘ลดวันละถุง คุณทำได้’ เปลี่ยนถุงพลาสติกเป็นเงินบริจาค มอบให้โรงพยาบาลศิริราช ของ 7 - 11 เริ่มต้นเมื่อปลายปีที่แล้ว โครงการนี้มีตูน บอดี้สแลมมา เป็นพรีเซนเตอร์หลัก

ผ่านมา 4 เดือนเศษ เฉพาะโครงการนี้โครงการเดียวลดการใช้ถุงพลาสติกทั่วประเทศไปกว่า 300 ล้านใบ และประกาศเดินหน้าลดการใช้ถุงพลาสติกให้ได้ 1,000 ใบ

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของภาคเอกชนและภาครัฐ ในการลดขยะพลาสติกในประเทศไทย ซึ่งช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ลดการใช้ถุงพลาสติกได้ไปแล้วประมาณ 4,600 ตัน

และล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 เม.ย.62) ประชุมคณะรัฐมนตรี เพิ่งเห็นชอบร่างโรดแมปการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561- 2573 ที่กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

ตามรายละเอียดของโรดแมปฉบับนี้ ภายในปี 2562 ประเทศไทยจะเลิกใช้พลาสติก 3 ชนิด ได้แก่  

- พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม 

- พลาสติกผสมสารอ็อกโซ่ ที่ทำให้พลาสติกย่อยสลายได้เร็วขึ้น แต่ก็ไม่สามารถย่อยสลายได้ทั้งหมดและยังเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งพบว่ามีการใช้พลาสติกประเภทนี้ผลิตเป็นถุงหูหิ้วประมาณ 1.1 ล้านตันต่อปี 

- พลาสติกผสมไมโครบีด ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายชนิดต่างๆ เช่น เครื่องสำอาง ยาสีฟัน หรือสบู่เหลว

ส่วนมาตรการระยะที่ 2 ภายในปี 2565 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ไทยจะยกเลิกการใช้พลาสติกอีก 4 ชนิด คือ ถุงพลาสติกหูหิ้วที่มีความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน , กล่องโฟมบรรจุอาหาร , หลอดพลาสติก ที่มีข้อยกเว้นสำหรับใช้กับเด็ก คนชรา และผู้ป่วย และสุดท้ายคือยกเลิกการใช้แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งดียวทิ้ง

นอกจากนี้ภายในปี 2570 โรดแมปฉบับนี้ ยังตั้งเป้านำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้ 100% และมีวิธีกำจัดของเสียอย่างถูกวิธี หากทำได้ตามแผนนี้ คาดการณ์ว่า แต่ละปีจะลดปริมาณขยะพลาสติกได้กว่า 780,000 ตัน และช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดการขยะมูลฝอยได้เกือบ 4,000 ล้านบาท

สำหรับสถานการณ์ขยะพลาสติกในไทย ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เพราะประเทศไทยติดอันดับ 6 ประเทศที่มีขยะพลาสติกมากที่สุดในโลก

กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่าปีที่แล้ว ไทยมีปริมาณขยะมูลฝอย 27.8 ล้านตัน เป็นพลาสติกจากขยะชุมชน ประมาณ 2,000,000 ตัน สามารถรีไซเคิลได้เพียง 1 ใน 4 ส่วนเท่านั้น คือประมาณ 500,000 ตัน ส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติก ส่วนที่เหลืออีก 1.5 ล้านตัน มากที่สุดก็คือถุงพลาสติกประมาณ 1.2 ล้านตัน ยังกำจัดไม่ถูกวิธี จนก่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และสัตว์ทะเล และกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกไป อย่างกรณีวาฬนำร่องครีบสั้นเกยตื้น ที่จังหวัดสงขลา ที่มีสาเหตุการตาย เพราะกินขยะพลาสติกเข้าไป จนทำให้กระเพาะอาหารอุดตัน