รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 28 มีนาคม 2563
ไฟป่าเชียงใหม่ ไม่ได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ แบบลุงนะ! ตอนนี้ลุกลามกว่า 500 จุด สะเมิงหนักมาก! ดอยสุเทพก็ไม่แพ้กัน ทำค่าฝุ่นหนักสุดในโลก ปอดคนจะพังไม่ต่างจากถูกโควิด “อ.พิชญ์” อธิบายปัญหาเชิงการเมือง ถามกฎหมายที่ออกมาใช้จะแก้อะไรได้บ้าง “อ.วิโรจน์” เสริมตอนนี้จิตอาสาไปทำงาน แถมบางครั้งต้องควักทุนส่วนตัวซื้ออุปกรณ์ดับไฟ
เช้าวันที่ 28 มี.ค. มีรายงานการตรวจพบจุดความร้อนจากดาวเทียมเวียร์ เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ มากถึง 518 จุด เกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 212 จุด และป่าอนุรักษ์ 294 จุด และพื้นที่อื่นๆ 11 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนภูเขา ในพื้นที่เขาลาดชันยากต่อการเข้าถึง บางจุดเป็นเหวลึก ยากต่อการที่หน่วยดับไฟภาคพื้นดินเข้าถึง
โดยต้องใช้เวลานานกว่าจะควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างได้ ประกอบกับในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีลมแรง ทำให้สะเก็ดไฟถูกลมพัดปลิวข้ามแนวกันไฟ ลุกลามมายังพื้นที่ข้างเคียง จึงเกิดไฟลุกลามอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบางจุดเกิดการปะทุขึ้นใหม่
อย่างไรก็ตาม พบว่าแนวเขตของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ถือว่าเป็นจุดวิกฤติหนักที่สุดมาเกือบ 1 สัปดาห์เต็มแล้ว ยังเกิดไฟป่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเช้านี้ยังมีรายงานเกิดไฟป่าประทุขึ้นอีก ใกล้กับยอดดอยปุย บริเวณผาดำ ซึ่งเป็นจุดที่เป็นหน้าผาสูงยากแก่การเข้าถึง
ขณะเดียวกันเช้านี้ ยังพบว่า ในพื้นที่อำเภอสะเมิง พบจุดฮอทสปอทจากไฟป่ามากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้คุณภาพอากาศของ อำเภอสะเมิง แย่ที่สุด โดยวัดค่า PM 2.5 ได้สูงถึง 767 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ค่ามลพิษก็ยังคงสูง และมีหมอกควันจากไฟป่าหนาทึบปกคลุมตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูล ของเว็บไซต์ CMU CCDC หรือศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Climate Change Data Center Chiang Mai University) รายงานสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเวลา 9.00น. ที่ผ่านมา ข้อมูลรายชั่วโมง รายงานค่าฝุ่นพิษ PM2.5 เช้านี้พบว่า ที่ข่วงประตูท่าแพกลางเมืองเชียงใหม่วัดได้ 415 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แคมปัสแม่เหียะ วัดได้ 587 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนในตัวเมือง มีค่ามลพิษสูงอยู่ที่ 200-500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรทุกพื้นที่
ขณะที่เว็บไซต์ Air visual พบว่า ค่ามลพิษของจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นสู่อันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่องเช้านี้วัด ค่า PM 2.5 ได้ 261.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอาาศวัดได้ 312 USAQI
ด้านศูนย์สั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จ.เชียงใหม่ ได้ประชุมเร่งปรับแผนการดำเนินงาน มีตัวแทนกองทัพบก กองทัพอากาศ ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือเรื่องการนำอากาศยานต่างๆ ขึ้นบินโปรยน้ำเพื่อดับไฟในพื้นที่สูงชัน เพื่อแบ่งพื้นที่การดำเนินงานให้การดับไฟป่าเกิดผลอย่างมี
ประสิทธิภาพมากที่สุด โดยได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ MI 17, เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวะล้อม 3 ลำ รวมทั้ง เฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แบบ32 หรือ KA-32 มาสนับสนุนภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทันหมดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังมีเฮลิคอปเตอร์ BT-67 ช่วยบินโปรยน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันเหนือเมืองเชียงใหม่ด้วย