สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เปิดตัวกิจกรรม "ปิดเทอมสร้างสรรค์ อัศจรรย์วันว่าง" ประจำปี 2562 เพื่อให้เด็กไทยได้ใช้โอกาสช่วงปิดเทอม ในการพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม เพิ่มศักยภาพ รวมถึง ค้นหาแววในการทำงาน
ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ปีนี้ มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์กระจายทุกภูมิภาคถึง 1,248 กิจกรรม ขณะที่หอการค้า หนึ่งในภาคีเครือข่าย รายงานว่า มีการเปิดรับงานพิเศษรวมถึงงานพาร์ทไทม์กว่า 10,000 ตำแหน่ง และเพื่อเป็นการอุดช่องโหว่ที่สำรวจพบว่า มีเด็กกว่า 43% เข้าไม่ถึงกิจกรรมอะไรเลยเพราะบ้านอยู่ไกล สสส.จึงมีการจัดอบรมนักจัดการปิดเทอมสร้างสรรค์ นำร่องเพิ่มเติมใน 15 จังหวัด เพื่อให้เด็กเข้าถึงกิจกรรมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังรวบรวมกิจกรรมทั้งหมดไว้ใน www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com ซึ่งเด็กสามารถค้นหากิจกรรมที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเอง
ผู้จัดการ สสส. กล่าวอีกว่า จากการประมวลและถอดบทเรียน พบว่ากิจกรรม 3 อันดับแรกที่เด็กสนใจ คือ เข้าค่าย คิดเป็น 45% ต่อมาคือ ท่องเที่ยว ทัศนศึกษา คิดเป็น 22.4% และกิจกรรมกีฬา 21.9%
สำหรับลักษณะกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กวัยต่างๆ เด็กประถมศึกษาตอนปลาย ควรเน้นการสร้างความสัมพันธ์ สนุก น่าสนใจ ขณะที่เด็กมัธยมศึกษาตอนต้น กิจกรรมต้องมีวัตถุประสงค์ชัดเจน เนื้อหารอบด้าน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมมากขึ้น ส่วนมัธยมศึกษาตอนปลาย ต้องเน้นวิชาการ สอดแทรกด้วยประเด็นทางสังคม ระดับมหาวิทยาลัย ต้องเป็นกิจกรรมที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันหรือนำไปพัฒนาตัวเองได้ และเยาวชนสายอาชีวะ เน้นอบรมเชิงปฏิบัติการ หรือ workshop ไม่เน้นเรื่องความสัมพันธ์มากแต่ให้เน้นทักษะที่จะนำไปใช้ได้ในอาชีพ
ด้าน นางเทพวัลย์ ภรณวลัย รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ได้เตรียมกิจกรรม “ถนนเด็กเดิน เพลิดเพลินวัฒนธรรม นำสื่อสร้างสรรค์” ให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่แสดงออกและพัฒนาศักยภาพ ทั้งด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี งานฝีมืออื่นๆ ส่วน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดกิจกรรม One Day Camp พาเด็กๆเยาวชน สำรวจพิพิธพัณฑ์ไปรษณียากรสามเสนใน พร้อมกับเปิดค่าย 4 วัน 3 คืน สำหรับน้องๆที่อายุ 11-14 ปี ไปรู้จักกับสารพันเรื่องราวของแสตมป์ทั้งไทยและเทศ
ทั้งนี้ สสส.ตั้งเป้าเป็นตัวกลางประสานหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่ปกติจัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์อยู่แล้ว ให้มาร่วมอยู่ในเว็บไซต์ “ปิดเทอมสร้างสรรค์” ซึ่งผู้จัดการกองทุน สสส. ย้ำว่า ยังคงเปิดรับภาคีเครือข่ายเพิ่มเติม เพื่อช่วยกันดึงเด็กไทยออกห่างจากปัญหาต่างๆ เช่น ติดเกม ติดสังคมโซเชียล และปัญหาสังคมอื่นๆ โดยหากิจกรรมที่เหมาะกับวัยให้เด็กได้ลงมือทำ