รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand มองปม “พรรคก้าวไกล” ปูดกลางสภา มี ส.ส.จ่อแบ่งเค้กจากงบที่กู้ 4 แสนล้าน แบ่งหัวละ 80 ล้าน ยันได้ยินจริง! สอดคล้อง ภท.-ปชป. ออกมาแถลงดักคอ และขอตั้ง กมธ.ตรวจสอบการใช้เงินฯ
“คำผกา” ได้ทีบอกเลย! นี่คือข้อดีที่มี ส.ส.ดักคอและตรวจสอบกัน ดีกว่ามี “สภาฝักถั่ว” แบบ สนช. แถมงานนี้ “ใบตองแห้ง” ชี้ “งบ ส.ส.” ที่ได้ไปก็ต้องทำให้ดี
ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าว กระบวนการแจกงบ ส.ส. 80 ล้านจาก พ.ร.ก กู้เงิน, การตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบ และสรุปภาพรวมการอภิปรายที่ผ่านมา โดยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีที่ได้อภิปรายในสภาว่าอาจมีการแบ่งเค้กจากเงินกู้ ส่วนที่จะนำไปฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โดยจะให้ ส.ส.คนละ 80 ล้านบาท เป็นเพราะได้ยินการพูดคุยเรื่องนี้ระหว่าง ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เห็นว่าต้องพูดในสภา แม้ยังไม่มีหลักฐาน แต่อย่างน้อยให้ประชาชนรับรู้และจับตา และเห็นว่า "งบ ส.ส." ในอดีตเคยมี แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดชัดเจนว่า การผ่านงบฯ ลงพื้นที่ของ ส.ส.ทำไม่ได้ ถือเป็นการพูดแทน ส.ส. พรรคอื่นที่ไม่กล้าพูด เพราะกลัวขัดผลประโยชน์กับ ส.ส.ในพรรค ขณะที่พรรคก้าวไกล ยืนยันที่จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา เป็นปากเสียงให้ประชาชน
นายพิจารณ์ ระบุว่า ปกติการจัดสรรงบลักษณะนี้จะมีปัญหาที่ให้ ส.ส.เลือกใช้จ่ายเอง โดยไม่ตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น ไม่เกิดการจ้างงานอย่างแท้จริงหาไม่ตรงกับผลประโยชน์ของนักการเมืองในพื้นที่ โดยการใช้เงินนั้น ส.ส.จะเสนอโครงการผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามขั้นตอน ซึ่งพรรคก้าวไกลเสนอ "ดิจิทัลแพลตฟอร์ม" ที่ให้รายงานและสามารถตรวจเช็คการใช้จ่ายเงินในการดำเนินโครงการต่างๆได้ ซึ่งจะรวดเร็วกว่าการรายงานต่อสภาด้วย รวมถึงการตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อติดตามการใช้เงิน พร้อมฝากถึงประชาชน หากพบพฤติกรรมส่อทุจริตและใช้งบเพื่อเอื้อประโยชน์ของนักการเมืองท้องถิ่นหรือระดับชาติให้ส่งข้อมูลมาที่พรรคก้าวไกล
ต่อมาเมื่อผู้สื่อข่าวเจอนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สอบถามถึงกรณีนี้ นายชวน กล่าวว่า ได้ยินเรื่องนี้เมื่อวาน หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ก็คงปิดไม่มิด เป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายต้องคอยดูกัน คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญต้องตั้ง กมธ.ตรวจสอบ ต้องย้อนไปดูสมัยก่อน ปกติเมื่อมี พ.ร.ก.มีโอกาสน้อยมากที่จะไม่ผ่าน เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลตัดสินใจแล้ว ว่าจะเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน แต่เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงินส่วนใหญ่ การวิพากษ์วิจารณ์ก็จะน้อย เพราะฉะนั้นการลงมติรับอนุมัติก็เป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามย้ำว่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อสภาหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เห็นข่าวพาดหัวบางฉบับ ทุกฝ่ายก็ต้องติดตามกันต่อไป แต่ส่วนตัวไม่เคยได้ยินมาก่อน ส่วนการตรวจสอบนั้นผู้พูดก็ต้องติดตามต่อไป และฝ่ายที่ข้องใจก็สามารถตั้งกระทู้ถามได้
