4 รัฐมนตรีแกนนำพรรคพลังประชารัฐลาออกแล้ว ย้ำรอมติพรรคยังไม่ทาบทามนายกฯ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ อวยพรให้ประสบความสำเร็จ ส่วนสนธิรัตน์ โว เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ทางการเมือง ที่มุ่งผลประโยชน์ของประชาชนไม่เอาการเมืองนำ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงหลัง 4 รัฐมนตรีแกนนำพรรค ได้แก่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและรองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และเลขาธิการพรรค, และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีและโฆษกพรรค ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อเช้านี้ (29 ม.ค.) ว่า วันนี้ได้ขึ้นไปลานายกรัฐมนตรีเพื่อไปทำงานการเมืองตามที่ตั้งใจไว้หลังก่อตั้งพรรคตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2561 ซึ่งการทำหน้าที่รัฐมนตรีที่ผ่านมาปฏิบัติตัวอยู่ในกฎกติกา และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ยื่นหนังสือลาออก และทำงานที่พรรคเต็มตัว สะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใสและก้าวเข้าสู่การเมืองด้วยความมั่นใจ ตนยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้เอาการเมืองนำ ถึงเวลาทำภารกิจเสร็จสิ้นก็ลงมาทำงานการเมือง
ส่วนการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (29 ม.ค 62) นายกฯ รับทราบและอวยพรให้ประสบความสำเร็จ พร้อมกำชับว่าให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งการพูดคุยวันนี้ยังไม่ได้ทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ และเปิดเผยว่ายังไม่ได้ทาบทามใคร เพราะต้องหารือกับกรรมการบริหารพรรคก่อนตามกลไกของพรรค แต่จะไม่ล่าช้าเพราะ กกต. กำหนดว่าต้องประกาศบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคภายในวันที่ 4-8 ก.พ. นี้ พร้อมย้ำว่ามีความมั่นใจ ไม่ใช่มั่นใจทางการเมือง แต่มั่นใจว่าประเทศต้องการการเปลี่ยนแปลง
ด้านานสนธิรัตน์ กล่าวว่า การลาออกของรัฐมนตรีทั้ง 4 คนครั้งนี้เป็นการสร้างมาตรใหม่ เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมายังไม่เคยมีรัฐมนตรีในรัฐบาลใดลาออก หลังประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 4 คนรับแรงกดดันด้วยความอดทน พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำงานเพื่อประชาชน ไม่ได้เอาการเมืองนำการทำงาน พวกตนน้อมรับคำวิจารณ์มาโดยตลอด แต่คำวิจารณ์เรานั้นเป็นคำวิจารณ์ทางการเมืองไม่ได้อยู่บนหลักการและเหตุผลที่เคยปฏิบัติกันมา ยอมรับว่าทั้ง 4 คนเป็นนักการเมืองใหม่ของบริบทการเมืองของประเทศไทย พวกตนต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ไม่ใช้ความได้เปรียบทางการเมืองเป็นจุดหลักในการทำงานการเมืองเพียงอย่างเดียว และที่รอเวลามาจนถึงวันนี้เป็นเพราะภารกิจที่ต้องรับผิดชอบในฐานะทีมเศรษฐกิจยังไม่เสร็จสิ้น
ซึ่งสื่อมวลชนก็จะเห็นว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกตอนทำงานหนักเพื่อให้เสร็จล่วงโดยเร็ว และจะเห็นว่ามาตรฐานเหล่านี้เป็นมาตรฐานที่พวกตนตั้งใจทำ และจะไม่ให้สัมภาษณ์หรือทำงานการเมืองเลยในช่วงเวลาราชการ หรือถ้าจะทำก็จะลากิจ ซึ่งสิ่งที่พวกตนทำทั้งหมดนั้นอยากให้เชื่อมั่นว่าพวกตนอยากเห็นประเทศไทยที่ไม่ใช้วาทกรรมทางการเมือง เป็นการเมืองที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน เพราะฉะนั้นพวกตนทั้ง 4 คนและพรรคพลังประชารัฐตั้งใจแสดงจุดยืนทางการเมืองและ ไม่ได้อยู่ในแรงกดดันของใครทั้งสิ้น แต่เป็นการตัดสินใจที่จะทำงานการเมืองแบบตรงไปตรงมา
การลาออกจะมีผลในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) และจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐนี้เพื่อคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. และนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรค โดยหลังจากการให้สัมภาษณ์ 4 รัฐมนตรีปฏิเสธที่จะโบกมือลาแต่ชูนิ้วโป้งให้ช่างภาพถ่ายภาพแทน