ทิสโก้ โอนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล - สินเชื่อบัตรเครดิต ที่ซื้อมาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ได้เพียง 5 เดือน ให้กับ 'ธนาคารซิตี้แบงก์' มูลค่า 6,900 ล้านบาท คาดกระบวนการโอนย้ายเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4 ปี 2561
ธนาคารทิสโก้ จำกัด และบริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยภายใต้บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการโอนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และธุรกิจบัตรเครดิต ให้แก่ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. สาขากรุงเทพฯ หรือ ซิตี้แบงก์ โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ธุรกิจของธนาคารและบริษัท ที่คำนึงถึงการให้บริการที่สามารถตอบสนองลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดภายใต้ภาวะการแข่งขันของตลาดในปัจจุบัน
โดยหลังจากธนาคารและบริษัทจะออกหนังสือแจ้งประกาศข้อตกลงการโอนธุรกิจแก่ลูกค้าสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต และจะมีการแจ้งความคืบหน้าแก่ลูกค้าเป็นระยะในระหว่างการถ่ายโอนธุรกิจ ซึ่งระหว่างการเปลี่ยนผ่านธนาคารและบริษัทมุ่งมั่นจะทำงานร่วมกับธนาคารซิตี้แบงก์อย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและดำเนินการให้การถ่ายโอนเป็นไปอย่างราบรื่น
สำหรับธุรกิจสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตนั้น เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตธุรกิจลูกค้ารายย่อย ที่ประกอบด้วยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ เงินฝากรายย่อย บริการธนบดีธนกิจ (Wealth Management) สินเชื่อธุรกิจรายย่อย สินเชื่อบุคคล และ บัตรเครดิต ที่ธนาคารและบริษัทรับโอนมาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) โดยกระบวนการถ่ายโอนธุรกิจทั้งหมดแล้วเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม 2560
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากการทบทวนและวิเคราะห์แนวทางที่เหมาะสม และสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของทิสโก้ที่มุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญ โดยคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง ประกอบกับเป็นจังหวะที่มีพันธมิตรอย่างธนาคารซิตี้แบงก์ให้ความสนใจ และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และบริการที่ต่อเนื่อง จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารพิจารณาเห็นว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสม
ด้านนางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย ได้กล่าวว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับธุรกิจรายย่อยในประเทศไทยคือการเติบโต การโอนย้ายธุรกิจครั้งนี้เพิ่มโอกาสให้ซิตี้แบงก์ขยายฐานธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตชั้นนำในเอเชีย ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ และสิทธิพิเศษของซิตี้แบงก์ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในระดับโลก ทั้งสิทธิพิเศษด้านการรับประทานอาหาร ด้านการท่องเที่ยว คะแนนสะสม และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่มีให้กับลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ที่ใหนของมุมโลกก็ตาม
ขณะที่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซิตี้แบงก์มีลูกค้าบัตรเครดิตกว่า 16 ล้านคน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานและการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน ในปี 2560 รายได้ของธุรกิจบัตรเครดิตของซิตี้แบงก์ในเอเชียเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เป็น 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 462 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ด้วยความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพของซิตี้แบงก์ ทางบริษัทจึงเล็งเห็นความเหมาะสมและมีความเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และบริการที่ดีและต่อเนื่องจากการโอนธุรกิจในครั้งนี้