นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติปรับเพดานพิมพ์สลากต่องวด จาก 80 ล้านฉบับ เพิ่มเป็น87ล้านฉบับ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป ว่า
'ที่ผ่านมาสังคมถูกทำให้เข้าใจผิดว่าการซื้อสลากคือการช่วยชาติ อุดหนุนให้รัฐบาลมีเงินพัฒนาประเทศ แต่จริงๆ แล้วการซื้อสลากไม่ได้ช่วยชาติเพราะภาวะเศรษฐกิจนอกจากจะขับเคลื่อนด้วยการลงทุนของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของภาครัฐแล้ว ยังขับเคลื่อนด้วยการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน การที่รัฐบาลพิมพ์สลากเพิ่ม เท่ากับเป็นการดูดซับสภาพคล่องจากภาคครัวเรือน เพราะแทนที่ประชาชนจะมีเงินจับจ่ายใช้สอยในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กลับนำเงินไปซื้อสลาก ซึ่งมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจน้อยมาก มีเพียงผู้ขายสลากจำนวนหลักหมื่นคนเท่านั้นที่มีรายได้เพิ่ม ขณะที่ภาคครัวเรือนที่เป็นคนส่วนมาก กลับถูกกระตุ้นให้นำเงินไปใช้กับการเสี่ยงโชค'