'ณัฐ ศักดาทร' ดารานักร้องชื่อดังทนไม่ไหว อยากเห็นประเทศไทยพัฒนา พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด ยอมรับอดีตที่เคยเห็นด้วยกับการรัฐประหาร แนะใกล้เลือกตั้งควรแลกเปลี่ยนความเห็นได้ งง คสช.เข้มกฎเหล็กห้ามชุมนุมเกิน 5 คน
ณัฐ ศักดาทร นักร้องและนักแสดงชื่อดัง ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว Nat Sakdatorn เกี่ยวกับเรื่องบ้านเมืองเริ่มจากแสดงความคิดเห็นว่า ไม่เข้าใจกับกฎที่ห้ามการชุมนุมพูดคุยการเมืองเกิน 5 คน ทั้งที่ความจริงยิ่งใกล้เลือกตั้ง น่าจะเปิดทางให้ประชาชนได้ตื่นตัวเรื่องการเมือง และศึกษาข้อมูลได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งทุกวันนี้แม้จะห้ามการชุมนุมพูดคุยเรื่องการเมือง แต่คนมากมายกลับร่วมถกเถียงกันในโซเชียลมากกว่า 5 คนด้วยซ้ำ แม้ไม่ได้เจอตัวกัน ก็มีพลังไม่น้อยกว่าการชุมนุม ควรโฟกัสที่การเปิดกว้างทางความคิดเพื่อพัฒนาประเทศจะดีกว่า
นอกจากนี้ยังแสดงความเห็นอีกว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยควรพัฒนาไปกว่านี้แล้ว อย่าคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว เพราะการเมืองส่งผลกระทบต่อทุกคน ค่อยๆ ช่วยกันไป พูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ทำ บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและเหตุผล ประเทศไทยมีคนเก่งมากมาย ควรจะเจริญมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ได้แล้ว
จนเมื่อวันที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศตัวจัดตั้งพรรคการเมือง "พรรคอนาคตใหม่" พูดถึงการเปลี่ยนแปลงว่าประเทศควรเดินไปข้างหน้า ด้าน ‘ณัฐ ศักดาธรง ยังทวีตข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่า ขอจับตามองต่อไปยาวๆ เริ่มรู้สึกดีที่มีใครสักคนที่พูดจาน่าฟัง มีเหตุผล มีวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ออกมา อยากให้ทุกคนที่ลงสมัครเลือกตั้งมาออกสัมภาษณ์แบบนี้ อยากรู้ว่าตัวเลือกอื่นเป็นอย่างไร ถ้ามีการได้โต้เถียงกันแบบฝรั่งได้จะยิ่งดี ประชาชนจะได้เปรียบเทียบ และตัดสินใจได้ว่าควรจะฝากอนาคตไว้กับใคร
ทั้งนี้ มีแฟนคลับเข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย พร้อมชื่นชมที่ ‘ณัฐ' เป็นดาราที่กล้าแสดงความเห็นทางการเมืองในช่วงเวลานี้เช่นนี้ โดยทางนักร้องหนุ่มตอบกลับข้อความนี้ว่า เห็นในหลายประเทศที่เจริญแล้วไม่ว่าคนทั่วไป ดารา หรือคนที่มีชื่อเสียงอาชีพไหน ก็กล้าแสดงความคิดเห็นด้านการเมืองเป็นเรื่องปกติ ควรเป็นแบบนั้นในบ้านเราเหมือนกัน การเมืองไม่ใช่แค่เรื่องของนักการเมือง แต่ควรเป็นเรื่องของเราทุกคน ถ้าเอาแต่เงียบและปล่อยผ่าน มันจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
อีกทั้งสิ่งที่ได้พูดมักเป็นความคิดเห็นส่วนตัวในแต่ละประเด็น เพราะอยากกระตุ้นให้คนที่ติดตามได้ตื่นตัวกับเรื่องการเมืองมากขึ้น เพื่อได้ไปหาข้อมูลเชิงลึกกันต่อ คิดกันต่อ วิเคราะห์กันต่อ ว่าอะไรน่าเชื่อไม่น่าเชื่อถือ อะไรที่อยากสนับสนุน ไม่อยากสนับสนุน พร้อมบอกด้วยว่า ตนเองไม่ใช่สีไหนทั้งนั้น เคยเอาใจช่วยกลุ่มรัฐบาลปัจจุบัน เพราะตอนนั้นคิดว่าอยากให้บ้านเมืองสงบ และเดินหน้าต่อได้ แต่เมื่อเวลาผ่านมาหลายปี ผลงานในเชิงพัฒนาประเทศ และการรับมือกับปัญหาต่างๆ ไม่เป็นที่น่าพอใจ และพร้อมจะสนับสนุนใครก็ตามที่จะเข้ามาพัฒนาประเทศ พาประเทศก้าวไปข้างหน้าได้จริง ไม่ยึดติดกับคนกลุ่มใด สีใด พรรคใด หรือรัฐบาลชุดไหนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมีชาวทวิตเตอร์ขุดทวีตเก่าของณัฐ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่ทวีตไว้ว่า "เหตุการณ์วันนี้อาจดูเหมือนการ "ถอยหลัง" สู่วังวนเก่าในแง่การแก้ไขปัญหาของชาติ แต่ก็อาจช่วยให้ประเทศเริ่ม "เดินหน้า" ต่อได้ซะที #แล้วแต่จะมอง" โดยวันดังกล่าวตรงกับวันเกิดรัฐประหารยึดอำนาจนั้น ณัฐตอบกลับว่า "ไม่ต้องขุดหรอกครับ ผมรู้ดีว่าผมเคยพูดอะไรตอนนั้น เพราะนั่นคือความคิดของผม ณ วันนั้นจริง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนเราสามารถ "เรียนรู้" และเปลี่ยนความคิดกันได้ครับ เราได้เจอความจริง ได้เห็นแล้วว่าหลายปีที่ผ่านมาบ้านเมืองเราเป็นไง และเราก็กล้ายอมรับว่าเราเคยคิดและคาดหวังผิดไป"
จากทวีตดังกล่าว มีคนเข้าไปแสดงความคิดอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่า เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่สามารถเรียนรู้ได้อยู่เสมอ อะไรที่เคยคิดว่าดีอาจกลายเป็นเรื่องไม่ดีได้ในปัจจุบัน เพราะคนเรามีการพัฒนาเติบโตและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด