ม.44 ก็เอาไม่อยู่!! ‘อ.ปริญญา’เตือน คสช.เลื่อนเลือกตั้งทำคนไม่พอใจ อย่าพาสังคมถลำลึก
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในงานเสวนาเรื่อง "นายกรัฐมนตรีคนนอก ตามรัฐธรรมนูญ 2560 และแนวโน้มการเมืองไทย" เนื่องในวันสัญญา ธรรมศักดิ์ ปี 2561 ที่ มธ.ศูนย์รังสิต ว่า เดิมการปฏิวัติกับการเลือกตั้งห่างกันเพียง 1 ปี เช่น ปี 2534 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้วจะต้องมีการเลือกตั้งภายใน 120 วัน แต่หลังการยึดอำนาจปี 2557 ผ่านมาแล้ว 4 ปีแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งวันไหน แล้วปีหน้าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ คนก็ยังสงสัย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่รัฐธรรมนูญมีบทเฉพาะกาลในแบบที่สามารถจะขยับโรดแมปเลือกตั้งออกไปได้เรื่อยๆ
ส่วนตัวมองว่า คสช.อาจเลือกทางใดทางหนึ่งใน 3 ทางเลือก แต่ทางเลือกที่ดีที่สุดคือทางเลือกที่ 4
ทางเลือกที่ 1 ลงมาเป็น ‘คนใน’ คือยอมให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเสนอชื่อ แต่พรรคนั้นต้องได้ ส.ส. 25 คน โดยที่ผ่านมา มีเพียง 3 พรรคที่ทำได้ คือ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไป คาดว่าอาจจะมีมากกว่า 3 พรรคที่ได้ถึง 25 คน
ทางเลือกที่ 2 คือมาแบบนายกฯ คนนอก ซึ่งอันตรายเพราะเหตุการณ์จะย้อนรอยกลับไปเหมือนที่เกิดขึ้นในอดีต พฤษภา 2535, 14 ตุลา 2516
ทางเลือกที่ 3 คือเลื่อนโรดแมปไปอีก แล้วอยู่ด้วยมาตรา 44 ไปเรื่อยๆ ทางเลือกนี้ 3 อันตรายที่สุด เพราะ คสช. จะพาสังคมไทยถลำลึกไปเรื่อยๆ กลับขึ้นมายาก เพราะ 4 ปีกว่าไปแล้ว ถ้าขยับเลือกตั้งอีกจะเอาไม่อยู่
คสช. ต้องยอมรับว่า คะแนนนิยมเมื่อเทียบกับตอนยึดอำนาจ 2 ปีแรกมันต่างกันหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนนี้มาตรา 44 เริ่มจะเอาไม่อยู่มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนจะเริ่มสงสัยและไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่คิดว่าจะส่งผลดีถ้าจะขยับเลือกตั้งไปอีก
ทางเลือกที่ดีที่สุดคือทางที่ 4 ปล่อยให้ประชาชนปกครองตัวเองและตัดสินอนาคตของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย คสช.ถอยเป็นบทผู้พิทักษ์ดูแลบ้านเมืองให้เรียบร้อย จนถึงกระทั่งส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลใหม่ ประชาชนตัดสินใจอย่างไรต้องยอมรับ
ส่วน การเลือก สว. ก็อย่าไปเลือกโดยหวังว่าจะมาเลือกตัวเองเป็นนายกฯ เพราะนี่คือประโยชน์ทับซ้อน ต้องเลือก สว. เพื่อมาทำหน้าที่ 5 ปีในแบบที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมที่แท้จริง เพราะหาก คสช. ไม่เลือกทางที่ 4 ก็มีแนวโน้มว่า คสช. จะเลือก สว.ที่คุมได้ แต่จะเป็นคนเดียวกับสว.ที่ทำหน้าที่เพื่อปวงชนหรือเปล่า ส่วนตัวไม่ค่อยแน่ใจ วิธีการดีสุดคือถอนตัวก่อนจะถลำลึกกว่านี้
นายปริญญา กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะไม่ได้นายกฯ คนนอกในแบบทางเลือกที่ 2 แต่อาจจะเป็นไปตามทางเลือกที่ 1 ซึ่งมีสมการต้องได้ 250 เสียง ขณะที่ประชาธิปัตย์ กับเพื่อไทย มี ส.ส. รวมกันเกิน 250 เสียงเสมอ เป็นที่มาประกาศ คสช. 53/2560 รีเซ็ทส.ส.เก่า เนื่องจาก 2 พรรคใหญ่ รวมกันมี ส.ส. เกิน 250 เสียง
แต่ไม่ได้แปลว่า คสช. จะได้พรรคใหม่ที่ได้ส.ส. 250 เสียง เพราะขึ้นอยู่กับว่าจะดึงมาได้หรือเปล่า เป็นเหตุที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนว่า ถ้าอยากสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ให้ไปอยู่พรรคอื่น และเป็นเหตุที่ทำไม ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงต้องประกาศท่าทีบางอย่างมาจากญี่ปุ่น เพื่อบอก ส.ส.เพื่อไทย เป็นการเรียก ส.ส.กลับ ไม่ใช่การแสดงท่าทีต่อ คสช.