รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2563

นักวิเคราะห์ Talking Thailand สอนมวย “องครักษ์พิทักษ์ประยุทธ์” ชี้! แม้ ไม่โอเคที่มาสมัย “อานันท์” นั่งนายกฯ แต่มีผลงานจับต้องได้ ในช่วงเวลาสั้น ๆ บางคนอยู่มาเข้าปีที่ 7 ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันก็ไม่มี! 

เหมือนตอกหน้าแรง ๆ “แรมโบ้อีสาน” ที่อวดอ้างผลงาน “ประยุทธ์” แถมลามปามกล่าวหา “อานันท์” อยากเป็นนายกอีก! ทั้งที่เขาไม่รับมาหลายครั้งแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงความเห็นนายอานันท์ ที่ขอให้ฟังเสียงผู้ชุมนุมว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอดีตนายกฯ แต่ยืนยันว่า ที่ผ่านมารับฟังโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นสื่อโซเชียลหรือรัฐสภา ในการประชุมสภาสมัยวิสามัญที่ผ่านมา มี ส.ส. บางคนนำข้อมูลจากการชุมนุมมาพูดในสภา ดังนั้น ถือว่า กระบวนการในสภาได้พูดคุยจบแล้ว จากนี้คือการตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อเสนอ ที่ยึดหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ปัจจุบันและในอนาคตจะแก้ไขก็จะต้องหารืออีกครั้ง

ส่วนที่บางฝ่ายเสนอทางออกให้ใช้การรัฐประหารแก้ปัญหาการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ต้องไปถามคนที่เสนอความเห็น เพราะส่วนตัวไม่เคยคิดเรื่องเหล่านี้ ดังนั้น ต้องระมัดระวังไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีหรือไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น แต่ย้ำว่า ไม่มีใครอยากทำการรัฐประหาร

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความเห็นกรณี นายอานันท์ โดยระบุว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้อ่านความเห็น ยังไม่รู้เรื่องจึงไม่รู้จะพูดอย่างไร อย่าไปเอาสิ่งที่ใครคนหนึ่งพูดแล้วเอามาถามต่ออีกคนหนึ่งเลย จะทำให้เกิดความบานปลาย เพราะถือเป็นความคิดความเห็นหนึ่ง เมื่อถามต่อว่าคำพูดของ นายอานันท์ อาจไปเพิ่มความชอบธรรมให้กลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ขอวิจารณ์

ถามว่า ข้อเสนอนายอานันท์ จะเป็นทางออกของประเทศหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า “ก็ดีแล้ว ถ้าตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ทุกอย่างก็ควรไปสู่ตรงนั้น สามารถรับเอาความคิดเห็นของใครต่อใครมา แล้วมาคิดดูว่าจะหาทางออกอย่างไร”

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ตอบโต้นายอานันท์ว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ยินเสียงของผู้ชุมนุมและติดตามรับฟังมาโดยตลอด และถอยให้ในหลายเรื่อง ทั้งยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกรุงเทพฯ การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออก หรือสนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง

แต่จากข้อเรียกร้อง 3 ข้อของผู้ชุมนุม พบว่า บางข้อเสนอทะลุเพดาน โดยเฉพาะการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน ไม่สามารถทำให้ได้ โดยเป้าหมายที่แท้จริงของผู้ชุมนุมไม่ได้อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงนายกฯ ต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่สูงกว่าเหนือกว่านายกฯ เรื่องนี้คนไทยทั้งประเทศรับทราบและรับรู้ ดังนั้น การลาออกของนายกฯจึงไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะการชุมนุมเรียกร้องจะยังคงมีต่อไป เพราะยังไม่สำเร็จตามเป้าหมาย

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กเชื่อว่าการแสดงความเห็น สะท้อนว่านายอานันท์ ยังหลงอยู่ในอำนาจต้องการได้ตำแหน่งนายกฯ หาก พล.อ.ประยุทธ์ลาออก เหมือนเหตุการณ์ในอดีต “นายอานันท์ เคยเป็นนายกฯ ย่อมเข้าใจการทำงาน และกติกาบ้านเมือง ที่ผ่านมา นายกฯ ฟังเสียงประชาชนทุกคน แต่เสียงของผู้ชุมนุมนั้นไม่เป็นไปตามกฎกติกา หากนายอานันท์ต้องการให้นายกฯ ลาออก ช่วยบอกด้วยว่า จะให้ใครมาทำงาน เสียสละทุ่มเทดังเช่น พล.อ.ประยุทธ์ หรือนายอานันท์อยากเข้ามาเป็นเองในรอบที่สองหรือไม่"

พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเพื่อแก้ความขัดแย้ง ที่ผ่านมาทุ่มเททำงานให้ประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง หรือคิดหวังผลธุรกิจส่วนตัวเหมือนนักการเมืองบางคน ที่นายอานันท์รู้ดีแก่ใจว่าเป็นใคร