รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2563
“อ.วิโรจน์ – คำผกา” ชวนจับตาดูสถานภาพ “ธรรมนัส” เข้าข่ายเดียวกับ “อดีต ส.ว. – ระวี รุ่งเรือง” ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งพ้นตำแหน่ง จากปมเคยถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีที่มาจากการถูกจับ เพราะหิ้วแป้งเข้าออสเตรเลีย
ถามว่า “ธรรมนัส” จะรอด-ไม่รอด นักวิเคราะห์มองตรงกัน “น่าจะไม่ต่างจากที่ผ่านมา” แต่ที่ชวนสงสัยคือ “พญาลอดช่อง” ยังไม่ข้องแวะด้วย บอกปัดพัลวัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายระวี รุ่งเรือง ส.ว. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพ เหตุเคยถูกไล่ออกจากราชการฐานประพฤติชั่วร้ายแรง แม้จะมี พ.ร.บ.ล้างมลทิน สามารถเทียบกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่กลับเข้ามารับราชการ เพราะ มี พ.ร.บ.ล้างมลทิน ได้หรือไม่ว่าไม่ทราบข้อเท็จจริงของ ทั้งสองคน
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ถูกดำเนินคดีในต่างประเทศแล้วจะขาดคุณสมบัติเหมือนนายระวี ก็ตอบไม่ถูก แต่โดยทั่วไปน่าจะได้ แต่จะนำเปรียบเทียบกัน ส่วนตัวไม่แน่ใจ เพราะบางอย่างใช้มาตราเดียวกัน และระบุว่าหากใครจะยื่นตีความคุณสมบัติ ร.อ.ธรรมนัส สามารถยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินได้
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าเมื่อ 10 มิ.ย.63 ได้ลงนามในคำร้องที่ฝ่ายค้านขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพความรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ใน 2 ประเด็น สำคัญ คือ
- กรณีเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและเคยถูกจำคุกในประเทศออสเตรเลีย
- กรณีภรรยาถือหุ้นในกิจการตลาดคลองเตย คู่สัญญากับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ว่าเข้าข่ายเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่
ส่วนกรณีส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จริยธรรมของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กรณีใช้อำนาจแทรกแซงข้าราชการประจำระหว่างลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต นายชวนระบุว่า ส่วนตัวจำไม่ได้ว่าส่งไปตอนไหน แต่ทุกเรื่องที่เข้ามาก็ส่งไปตามวาระ ซึ่งจะมีการตรวจสอบ หากไม่เป็นไปตามข้อบังคับ ก็จะเรียกให้แก้ไข โดยเอกสารจะต้องทำอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็จะตำหนิได้ ทั้งนี้มีการตรวจแม้กระทั่งรายชื่อว่าซ้ำหรือไม่ ลายเซ็นนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งมีการตรวจอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดข้อบกพร่องเสียหาย โดยถือหลักปฏิบัติเช่นนี้ทุกกรณี หากเป็นไปตามขั้นตอน ก็ถือว่าเข้าเงื่อนไข ประธานสภาฯไม่มีสิทธิ์ไปยับยั้ง
ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีส.ส.พรรคก้าวไกล พาดพิงนายชวน ว่าดึงคำร้องของส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ให้ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยกรณีของร.อ.ธรรมนัส มีลักษณะต้องห้าม ให้มีความล่าช้า ว่าไม่สบายใจที่พรรคก้าวไกลให้บุคคลท้ายแถว มากล่าวหาในสิ่งที่ไม่ตรงความจริง คนพูดไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ เพราะคำร้องดังกล่าวหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยื่นเมื่อวันที่ 27 พ.ค.63 วันถัดมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำร้องปรากฎว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล ไม่ได้ลงลายมือชื่อรับรองเอกสารประกอบ จึงต้องส่งกลับ และส่งกลับมาใหม่เมื่อ 29 พ.ค. เมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย วันที่ 1 มิ.ย.ก็ยกร่างคำร้อง และเจ้าหน้าที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ถือว่าเป็นกระบวนการที่รวดเร็วมาก
ส่วนคำร้องที่ให้ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ของ ร.อ.ธรรมนัส จะส่งไปศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เวลา 13.00 น. จึงขอว่าอย่าบิดเบือนความจริง หากไม่เข้าใจให้ถามหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ใช่รู้ข้อมูลผิด ๆ ถูก ๆ แล้วเอามาพูด ถ้าคิดว่าจะทำหน้าที่เป็นแบบอย่างคนรุ่นใหม่ คงต้องกลับไปเรียนรู้กระบวนการทางการเมืองก่อน