ป.ป.ช. ส่งฟ้อง ดร.ทักษิณ ชินวัตร คดีกล่าวหาทุจริตฟื้นฟูกิจการทีพีไอ ต่อศาลฎีกานักการเมือง หลังตั้งคณะทำงานร่วมกับอัยการ แล้วไม่ได้ข้อยุติ โดยคดีนี้ยืดเยื้อมานานเกือบ 8 ปี
สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งเอกสารสำนวนคดี ชี้มูลความผิด ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนคนใหม่ของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทย จำกัด มหาชน หรือ ทีพีไอ ถือเป็นการกระทำที่นอกเหนืออำนาจกระทรวงการคลัง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการ
โดยคดีนี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 โดยมี ร้อยเอกสุชาติ เชาว์วิศิษฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมด้วย แต่ร้อยเอกสุชาติ ถึงแก่อนิจกรรม จึงจำหน่ายคดี จากนั้นส่งให้อัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้อง แต่อัยการไม่เห็นด้วย จึงตั้งคณะทำงานร่วมกับ ป.ป.ช. แต่ไม่สามารถหาข้อยุติที่ตรงกันได้ ป.ป.ช.จึงตัดสินใจยื่นฟ้องเอง รวมระยะเวลาดำเนินการก่อนส่งศาลฎีกาฯ ยาวนานเกือบ 8 ปี
คดี ดร.ทักษิณคดีนี้ ถือเป็นคดีสุดท้าย ของดอกเตอร์ทักษิณ ที่ค้างอยู่ในชั้น ป.ป.ช. แต่ยังมีอีก 4 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาฯ ประกอบด้วย
- คดีออกสลากพิเศษเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ คดีหวยบนดิน ศาลนัดพิจารณาคดี ครั้งแรก วันที่ 25 กรกฎาคมนี้
- คดีอนุมัติให้เงินกู้แก่รัฐบาลสหภาพพม่า 4 พันล���านบาท หรือ คดีเอ็กซ์ซิม แบงก์ ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรก วันที่ 4 กรกฎาคม
- ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้ ป.ป.ช. ขอฟื้นคดีที่ศาลเคยจำหน่ายออกไปแล้ว มาพิจารณาใหม่ ลับหลังจำเลย ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดช่องให้ทำได้
ส่วนอีก 2 คดี อัยการสูงสุดยื่นขอฟื้นคดี คือ
- คดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มกฤษฎามหานคร
- คดีแก้ไขสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต ศาลนัดตรวจหลักฐานวันที่ 10 กรกฎาคมนี้