ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - กรุงฮานอยเรียกร้องประชาชน 'เลิกกินเนื้อสุนัข' - Short Clip
World Trend - เนเธอร์แลนด์ลงทุนเพิ่มให้คนใช้จักรยานมากขึ้น - Short Clip
World Trend - อังกฤษสั่งเว็บจองที่พักปรับกลยุทธ์ 'เพิ่มความเป็นธรรม' - Short Clip
World Trend - 'ยอดรีช' เฟซบุ๊กตกกระทบการตลาดทั่วโลก - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นเผชิญวิกฤติอัตราเกิดน้อยเป็นประวัติการณ์ - Short Clip
World Trend - สหรัฐฯ ให้ผู้ขอวีซ่าระบุบัญชีโซเชียลมีเดีย - Short Clip
World Trend - เฟซบุ๊กอธิบายวิธีเลือกแสดงโฆษณา - Short Clip
World Trend - ชาวเคนยาถูกนายจ้างจีนเหยียดผิวในประเทศตัวเอง - Short Clip
World Trend - นิวซีแลนด์จัดงบตาม 'คุณภาพชีวิตประชาชน' - Short Clip
World Trend - หลายบริษัทในจีนห้ามพนักงานซื้อผลิตภัณฑ์ 'แอปเปิล' - Short Clip
World Trend - แอปเปิลเร่งแก้ปัญหาดักฟังผ่าน 'เฟซไทม์' - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นเตรียมถอนตัวจาก IWC เดินหน้าล่าวาฬเชิงพาณิชย์ - Short Clip
World Trend - เอฟบีไอสอบกรณี 'สมอลเลตต์' พ้นผิดปริศนา - Short Clip
World Trend - แอปเปิลปลดพนักงานพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ 200 คน - Short Clip
World Trend - 'อาหารไร้กลูเตน' เพิ่มความเสี่ยงเป็นเบาหวาน - Short Clip
World Trend - พนง.กูเกิลทั่วโลกประท้วงกรณีล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน - Short Clip
World Trend - อุณหภูมิออฟฟิศที่เหมาะสมสำหรับทุกคนอาจไม่มีจริง - Short Clip
World Trend - โซนี่ลดพนง.แผนกสมาร์ตโฟน 2,000 คน - Short Clip
World Trend - หัวเว่ยชี้ ผลประกอบการธุรกิจอุปกรณ์ส่ง 5G ดีขึ้น - Short Clip
World Trend - สิงคโปร์เตรียมออกกฎเข้มเพื่อต้าน 'ข่าวปลอม' - Short Clip
World Trend - สาวเกาหลีใต้ลุกฮือปฏิวัติการให้คุณค่า ‘ความงาม’ - Short Clip
Dec 11, 2018 16:35

ขณะนี้ที่เกาหลีใต้ มีการรณรงค์ให้ผู้หญิงเกาหลีหันมาปฏิวัติความงามภายใต้แคมเปญ ‘Escape the Corset’ โดยหนึ่งในผู้ร่วมเรียกร้องให้ผู้คนเห็นคุณค่าของความงามดั้งเดิมคือ ลีนา เบ บล็อกเกอร์ ชื่อดังที่ถูกขู่ฆ่า หลังเข้าร่วมโครงการนี้

สำนักข่าว BBC รายงานว่า ลีนา เบ ยูทูบเบอร์และบล็อกเกอร์ด้านความงามชาวเกาหลีใต้ชื่อดังสร้างเสียงฮือฮาอย่างมากในวงการความงามเกาหลีใต้ หลังจากที่เธอได้เปลี่ยนวิธีการนำเสนอในช่องยูทูบของเธอ ที่โดยปกติแล้วจะเป็นการโพสต์คลิปวิดีโอสอนแต่งหน้า เปลี่ยนไปเป็นการโพสต์วิดีโอลบเครื่องสำอางโชว์แทน ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางลบอย่างมากจากแฟน ๆ ของเธอ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามเธอมากเกือบ 200,000 คน ในขณะที่คลิปดังกล่าวที่ชื่อว่า I am not pretty นั้นมีคนเข้าไปดูแล้วถึง 5.6 ล้านครั้ง

อย่างไรก็ตาม การได้รับเสียงวิจารณ์ทางลบคือสิ่งที่ตัวบล็อกเกอร์สาวได้คาดหวังไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่บรรดาแฟนคลับด้านความงามจะต้องรู้สึกไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำ แต่สิ่งที่เธอนั้นคาดไม่ถึงก็คือการที่มีผู้ที่เข้ามาชมคลิปการลบเครื่องสำอางรายหนึ่งแสดงความคิดเห็นไว้ในเชิงข่มขู่ถึงขั้นจะเอาชีวิตเลยทีเดียว ซึ่งนั่นทำให้ ลีนา เบ รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นกับยูทูบเบอร์คนอื่น ๆ ที่อาจจะออกมาทำคลิปสนับสนุนแคมเปญไม่แต่งหน้าแบบเธอ

ลีนา เบ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว BBC ว่ามันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการแต่งหน้าของสาวเกาหลีเริ่มไม่ต่างกับการสวมใส่คอร์เซ็ตของหญิงสาวในทุกยุคทุกสมัยเพื่อเก็บไขมันส่วนเกิน ซึ่งบีบรัดลำตัวช่วงเอวให้ดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งตามมาตรฐานความหุ่นดีในอุดมคติ โดยเธอใช้คำเรียกพฤติกรรมเช่นนี้ว่า ‘Appearance-corset’

นอกจากนั้น เบยังกล่าวด้วยว่าผู้หญิงเหล่านี้ต้องเผชิญกับความกลัวอย่างมากว่าผู้อื่นจะมีความคิดเห็นอย่างไรกับรูปลักษณ์และใบหน้าของพวกเธอ โดยพวกเธอจะรู้สึกอับอายมากกว่าปกติทุกครั้งที่ถูกมองว่าเป็นคนน่าเกลียดหรือไม่สวยพอ

ในตัววิดีโอชื่อ ‘I am ugly’ ของเธอที่ปัจจุบันมีคนกดเข้ามาดูมากกว่า 5.6 ล้านครั้งแล้วนั้น นอกจากคอมเมนต์รุนแรงอย่างการขู่ฆ่าเธอแล้ว ก็ยังมีข้อความโจมตีเชิงลบมากมาย เช่น เธอยังไม่สามารถที่จะใส่คอร์เซ็ตได้ด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าการคุกคามทางคำพูดผ่านโลกโซเชียลมีเดียมากมายเช่นนี้ทำให้เบถึงกับไม่กล้าแม่แต่จะออกจากบ้านของตัวเองอยู่สักพักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว

ปัจจุบัน ลีนา เบ คือหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักให้เกิดการเคลื่อนไหวของหญิงสาวชาวเกาหลีใต้ผ่านการรณรงค์ที่มีชื่อว่า ‘Escape the Corset’ ความเคลื่อนไหวนี้จุดประกายให้กับสาวเกาหลีมากมายให้ลุกขึ้นมาปฏิวัติการให้คุณค่าความงามแบบเดิม ๆ หลายคนถึงขั้นลุกขึ้นมาโกนผมตัวเองและใช้ชีวิตด้วยการไม่พึ่งเครื่องสำอาง พร้อมกับโพสต์รูปตัวเองลงบนโซเชียลมีเดีย

นี่คือตัวอย่างของการสร้างจุดยืนในการต่อต้านความเชื่อแบบเดิม ๆ ที่พวกเธอรู้สึกว่าเป็นแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากสังคมมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ทุกคนจะถูกกดดันจากโฆษณาตามโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต และตามท้องถนน ที่คอยย้ำเตือนว่าผู้หญิงจะต้องสวย และความสวยที่ว่านั้นจะเป็นแบบอื่นไปไม่ได้นอกจากการมีผิวพรรณที่ละเอียด ขาว ใส ดวงตากลมโต และใบหน้ารูปไข่

ค่านิยมดังกล่าวทำให้อุตสาหกรรมความงามในเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสามารถทำเงินได้สูงถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และยังเป็นประเทศที่ประชากรมีอัตราการทำศัลยกรรมสูงที่สุดในโลกอีกด้วย

นอกจากนั้น สำนักข่าว BBC ยังรายงานด้วยว่า อัตราความสำเร็จของผู้คนในเกาหลีใต้นั้นสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของรูปร่างหน้าตาอย่างมาก โดยผลสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมาชี้ว่า คนหางานอย่างน้อย 88% เชื่อว่ารูปร่างหน้าตามีความสำคัญอย่างมากที่จะได้รับคัดเลือกเข้าทำงาน และกว่า 50% ของกลุ่มตัวอย่างที่ถูกสำรวจนี้ระบุว่า พวกเขาอาจเลือกทำศัลยกรรมเพื่อโอกาสการทำงานที่มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวของ BBC ได้สัมภาษณ์ คิม ชูฮี นักศึกษาจบใหม่วัย 23 ปี ขณะที่เธอกำลังเตรียมความพร้อมก่อนถ่ายรูปเพื่อสมัครงานอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยเธอเป็นหนึ่งในนักศึกษาหลาย 10,000 คนที่ตั้งใจจ่ายเงินให้กับสตูดิโอถ่ายภาพเพื่อให้ภาพที่ต้องยื่นประกอบเอกสารสมัครงานนั้นสมบูรณ์แบบที่สุด โดยคิมระบุว่าฝ่ายบุคคลของบริษัทต่าง ๆ ที่เธอจะยื่นใบสมัครไปไม่มีใครรู้จักตัวตนของเธอมาก่อน พวกเขาจะตัดสินเธอจากรูปลักษณ์เป็นอันดับแรกจากภาพถ่าย เธอจึงต้องการให้ภาพออกมาสวยงามที่สุดเพื่อชนะใจด่านหินด่านแรกของการสมัครงาน

ขณะที่ช่างภาพก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากเช่นกันที่จะทำให้ภาพถ่ายออกมาดูดี เขาให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าเขาสามารถช่วยปรับความบกพร่องจุดต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้ อย่างเช่นกรณีบ่าไหล่ไม่เท่ากันก็สามารถปรับได้ภายหลัง แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดที่ตัวผู้ถ่ายจะต้องทำให้ดีด้วยตัวเองก็คือการแสดงออกทางสีหน้า ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างและความประทับใจได้ ซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้จะถูกส่งไปยังบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการจ้างงาน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่แล้วผู้กุมอำนาจในการตัดสินใจยังคงเป็นผู้ชายอยู่

อีกหนึ่งตัวอย่างของการเอาชนะค่านิยมความงามแบบเดิม ๆ ในเกาหลีใต้คือกรณีที่ อิม ฮยอนจู ผู้ประกาศข่าวช่อง MBC ของเกาหลีใต้เคยสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่เมื่อเธอตัดสินใจแหวกขนบเดิมของภาพความงามบนหน้าจอโทรทัศน์ด้วยการเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกที่ใส่แว่นสายตาอ่านข่าว เนื่องจากต้องทนทรมานหลายปีกับปัญหาที่เกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์และขนตาปลอม 

ช่วงแรกเธอมีความกังวลว่าผู้ชมจะวิจารณ์ในทางลบ แต่ตรงกันข้ามเธอได้รับเสียงสนับสนุนและเสียงชื่นชมอย่างมากที่กล้าแหวกขนบเดิม ๆ ของความงาม เธอกล่าวว่าการใส่แว่นทำให้เธอรู้สึกเป็นตัวเองและมีอิสระในการทำงานมากขึ้น นี่จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของแคมเปญ Escape the Corset และอิสระภาพที่สาวเกาหลีใต้กำลังโหยหาอยู่ในขณะนี้

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog