Sheikh Muszaphar Shukor นักบินอวกาศคนแรกของมาเลเซีย มาแบ่งปันแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยม และเรื่องราวของชีวิตทั้งก่อนและหลังการเป็นนักบินอวกาศ รวมไปถึงแนวคิดที่ผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จ ทั้งในฐานะของนักบินอวกาศ แพทย์ นายแบบ และเจ้าของธุรกิจ
ก่อนจะเดินทางไปสถานีอวกาศเป็นครั้งแรกของชีวิต Shiekh Muszaphar Shukor มีอาชีพเป็นศัลยแพทย์โรคกระดูกและข้อในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของประเทศมาเลเซีย และในขณะเดียวกันก็เป็นอาสาสมัครเดินทางไปประเทศต่างๆ รวมไปถึงฉนวนกาซ่า เพื่อช่วยเหลือพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และในขณะเดียวกันหน้าตาหล่อเหลาและบุคลิกที่สง่างามก็ทำให้เขามีช่องทางที่จะได้ลองหาประสบการณ์ในวงการของโลกนายแบบ ด้วยการเป็นนายแบบพาร์ทไทม์เป็นระยะสั้นๆ
ในปี 2006 ประเทศมาเลเซียได้รับโควต้าจากรัสเซียในการส่งนักบินอวกาศหนึ่งคนขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ISS ซึ่งทางมาเลเซียก็จัดแคมเปญจน์ยิ่งใหญ่เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศในการยกระดับโครงการอวกาศของประเทศ โดยที่การคัดเลือกนั้นจัดทำขึ้นราวกับเป็นเรียลลิตี้ โชว์ ที่ชาวมาเลเซียทุกคนร่วมลุ้นว่าใครจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่สุดสำหรับการปฏิบัติภารกิจเกียรติยศ และในที่สุด Sheikh Muszaphar Sukor ก็ได้รับคัดเลือกและเข้าร่วมโครงการ Angkasawan (ภาษามาเลเซีย แปลว่า นักบินอวกาศ) หลังจากฝึกฝนร่างกายอยู่นานนับปี ในปี 2007 เขาก็เดินทางออกสู่อวกาศพร้อมกับเพื่อนนักบินอวกาศจากประเทศอื่นๆ
ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ นอกจากเราจะได้เรียนรู้ถึงชีวิตของ Shiekh Muszaphar Shukor นับตั้งแต่ยังเด็กเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันและแผนการในอนาคตแล้ว แต่เราก็จะยังได้รู้ถึงแนวคิดที่ผลักดันให้เขามาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งในมาเลเซียและคนอื่นๆ ทั่วโลก ความคิดที่ว่า "ไม่มีอะไรที่เราจะทำให้สำเร็จไม่ได้" นั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เขาเปิดรับต่อการทดลองทำสิ่งใหม่ๆ ทั้งเรื่องที่ยิ่งใหญ่และต้องอาศัยการตระเตรียมขนานใหญ่อย่างการเดินทางไปอวกาศ มาจนถึงการเปิดธุรกิจร้านอาหาร และความคิดที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากทั่วโลก
ส่วนตัวจริงของ Dr. Sheikh นั้น เพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งวันเต็มที่ได้พูดคุยกับเขา ก็เพียงพอที่จะทำให้สัมผัสได้ถึงพลังงานที่เต็มเปี่ยมและความรู้สึกกระตือรือร้นต่อสิ่งรอบข้างอยู่ตลอดเวลา Dr. Sheikh ที่มีร่างกายสูงใหญ่ มักจะเดินก้าวยาวๆ และเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งอย่างรวดเร็วจนทำให้คนรอบข้างไล่ฝีเท้าตามไม่ทัน ซึ่งเป็นนิสัยที่ติดตัวมาจากตอนไปอวกาศ ทำให้รู้สึกว่าคนรอบข้างเคลื่อนไหวเชื่องช้าไปหมด ทุกสิ่งทุกอย่างดูง่ายดายสำหรับ Dr. Shiekh แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการตั้งปณิธานว่าจะขับเครื่องบินให้ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปีก็ตาม
หวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะเป็นตัวจุดประกายให้คนที่ได้ชมเกิดแรงบันดาลใจที่จะลุกขึ้นมาทำสิ่งใดก็ตามที่เคยถูกเก็บงำเอาไว้ด้วยความกลัวว่าจะล้มเหลว เพราะในความคิดของ Dr.Sheikh นั้น ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากว่าเราตั้งใจทำและทำมันหนักหน่วงมากเพียงพอ
