รายการ คิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา  ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2556


รหัสทางวัฒนธรรม ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ดีอังกฤษ นั้นมีหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องกฎการแต่งกาย การที่จะเป็นผู้ดีแบบอังกริ๊ด อังกฤษ ได้นั้นต้องทำอย่างไร ในหนังสือ "อังกริ๊ด อังกฤษ ถอดรหัสพฤติกรรมผู้ดี " Watching The English  ของเคท ฟ๊อกซ์  เขียน โดยมีคุณสุนันทา วรรณสินธ์ เบล แปลให้กับสำนักพิมพ์มติชน ได้ระบุถึงงานวิจัย  ความเป็นผู้ดีอังกฤษ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายนั้น จะบ่งบอกถึงการแยกเพศ เครื่องแสดงสถานะ และสัญลักษณ์ของ และยัง ได้กล่าวถึงหลังยุคอุตสาหกรรมของโลกตะวันตกสมัยใหม่ หรืออยากเห็นว่าเป็น "สไตล์" หรือ "การแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง" หรือแฟชั่น นั้นเป็นอย่างไร

เป็นที่รับรู้กันว่าคนอังกฤษไม่มี "เครื่องแต่งกายประจำชาติ" ดังนั้นคนอังกฤษแต่งตัวดีที่สุด เมื่อมีกฎอย่างเป็นทางการที่เคร่งครัดและประเพณีให้ดำเนินตาม แต่เมื่อใดปล่อยให้คนอังกฤษเลือกเองว่าจะใส่อะไร พวกเขาตะเกียกตะกายแล้วก็ล้มเหลวไปไม่เป็นท่า เพราะดูแล้วแทบไม่มีสไตล์หรือสง่างามเลย หรือที่ จอร์จ ออร์เวล เรียกว่า "มืดบอดเรื่องความสวยงาม "อย่างเช่นมีการนำเรื่องการแต่งกายตามสบายในวันศุกร์เฉกเช่นอเมริกา ปรากฎว่าพนักงานระดับล่างในอังกฤษ มาทำงานด้วยการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม เสื้อผ้าไร้รสนิยม เหมาะกับการไปเที่ยวชายทะเล หรือไนต์คลับมากกว่ามาทำงานในออฟฟิศ บางคนดูมอซอจนรับไม่ได้ จนในที่สุดต้องล้มเลิกนโยบายนี้ไปโดยปริยาย

หากพูดถึงกฎความแปลก ผู้ที่แต่งกายได้แปลกที่สุดจริงๆในประเทศคือพระราชินี พระองค์ไม่สนใจเรื่องแฟชั่น ไม่ว่ากระแสหลัก หรือไม่ก็ตาม และใส่เสื้อผ้าแอบของพระองค์อยู่เหมือนเดิม และไม่ใส่ใจความคิดเห็นขอใคร เพราะว่าพระองค์เป็นพระราชินี คนจึงเรียกสไตล์ของพระองค์ว่า "คลาสสิก"และ"เหนือกาลเวลา"

กฎอีกอย่างหนึ่งของการแต่งกาย คือแกล้งไม่ใส่ใจ หรือกฎความขายหน้า หรือกฎความแปลกตามกลุ่ม ยกตัวอย่างง่ายๆเรื่องการแต่งกายของ ผู้ชายชนชั้นกลาง จะไม่มีวันเสื้อกล้ามออกนอกบ้านแม้ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน หรือถ้าใส่เสื้อเชิ้ต ก็พับขึ้นมาใต้ชข้อศอก แต่ชนชั้นต่ำจะพับขึ้นมาเหนือข้อศอกเป็นต้น และชนชั้นบนมักจะชอบเสื้อเชิ้ตมากกว่าเสื้อยืด และไม่ว่าจะหนาวหรือหน้าร้อน ชายชนชั้นสูงจะใส่เสื้อผ้ามากกว่าชนชั้นล่าง ใส่เสื้อกันหนาวมากกว่า ผ้าพันคอหนากว่า ใส่หมวก  ถุงมือ  หรือแม้แต่การถือร่มก็เป็นเครื่องบอกสถานะ  รายละเอียดของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ไปติดตามในรายการคิดเล่นเห็นต่างกันเลยค่ะ...