ด้านวอลมาร์ท ประกาศปิด 269 สาขาทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อพนักงานรวม 16,000 คน หลังคนนิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ และสาขาไม่ทำกำไร
วอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร 269 แห่งทั่วโลก โดยมี 154 สาขาในสหรัฐ และส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 16,000 คน หลังจากประสบปัญหาในการแข่งขันกับบริษัทค้าปลีกออนไลน์
แถลงการณ์ของวอลมาร์ทระบุว่า ร้านที่ถูกปิดนั้นอยู่ห่างจากอีกสาขาหนึ่งไม่เกิน 10 ไมล์ และพนักงานในร้านที่ถูกปิดจะถูกย้ายไปทำงานในสาขาที่ใกล้เคียง รวมทั้งวอลมาร์ทยังระบุด้วยว่า การปิดสาขาในครั้งนี้จะกระทบรายได้รวมของบริษัทไม่ถึง 1% สอดคล้องกับ สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยยอดค้าปลีกของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น 3% ในช่วงเทศกาลวันหยุดในปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 3.7% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เป็นการขยายตัว ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 และต่ำกว่าการขยายตัวของยอดค้าปลีกตลอดปีที่แล้ว ที่พุ่งขึ้น 4.1%
ขณะที่เมื่อดือนตุลาคม 2558 นายดัค แมคมิลลอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของวอลมาร์ท ยืนยันว่าวอลมาร์ทยังคงเดินหน้าแผนฟื้นฟูกิจการ หลังจากที่ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายเ และราคาหุ้นของวอลมาร์ทลดลงมากที่สุดในรอบ 27 ปี และยอมรับว่า การตัดสินใจปิดสาขาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีความจำเป็นเพื่อให้บริษัทยังคงมีความแข็งแกร่งและเดินหน้าต่อไปสู่อนาคต
นักวิเคราะห์มองว่า นอกจากวอลมาร์ทที่ต้องปิดสาขาบางส่วน เพื่อพยุงธุรกิจ แต่ผู้ประกอบการค้าปลีกรายอื่น กำลังเผชิญกับสถานการณ์ไม่ต่างกับวอลมาร์ท และมีแนวโน้มจะดำเนินรอยตาม