รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 25 เมษายน 2563
แอดสงสัย “พล.อ.ประยุทธ์” จะรู้สึกอะไรไหม.... นักศึกษา มช. ออกมาร้องให้มหาวิทยาลัยลดค่าเทอมจาก 10% เป็น 30% หลายคนรายได้ลด..เพราะโควิด แต่กลับถูกขู่ และอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่มหาวิทยาลัยแจง มีกองทุนช่วยอยู่แล้ว “อ.พิชญ์” เชื่อเรื่องนี้ต้องตาม
ขอแถม แอดชวนฟัง นักวิเคราะห์ Talking Thailand ยังขยี้ปม “บัตรทอง”
วันที่ 25 เม.ย. 63 ที่สำนักงานสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาบัณฑิตศึกษาระดับปริญญาโท-เอก ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ นำโดย นายรวิพล ลี้มิ่งสวัสดิ์ น.ส.รสริน คุณชม นักศึกษาปริญญาโท พร้อมนักศึกษา รวม 6 คน ยื่นหนังสือถึง น.พ.เกษม วัฒนชัยนายกสภา มช. ผ่าน น.พ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์กุล กรรมการสภา มช. เพื่อเรียกร้องลดค่าธรรมเนียม ในช่วงวิกฤติโควิด 19 ของภาคการศึกษาที่1/63 อัตรา 30%
ภายหลังยื่นหนังสือดังกล่าวกับ น.พ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดี มช. เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา มีนายโรม จิรานุกรม นพ.อำนาจ อยู่สุข รองอธิการบดี มช. และนายอาคม ตันตระกูล ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มช. พ.ต.ท.นรากร ปิ่นประยูร สว.สส.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ร่วมชี้แจง โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวและความมั่นคง สังเกตการณ์กว่า 10 นาย ซึ่งใช้เวลากว่า 1.30 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ระหว่างการยื่นหนังสือ นายโรม และ พ.ต.ท.นรากร ได้ชี้แจงข้อกฎหมาย กรณีการชุมนุมยื่นหนังสือดังกล่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด ไม่ใช่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายได้ แต่กลุ่มนักศึกษา ยืนยันขอยื่นหนังสือดังกล่าวอย่างสันติ ไม่ได้ชุมนุมประท้วงที่สร้างความเสียหาย หรือความเดือดร้อนแก่สภาอย่างใด ทำให้มีการเผชิญหน้าและเจรจากันนานกว่า 30 นาที ก่อน น.พ.สมศักดิ์ เป็นตัวแทนสภา มช. ออกมารับหนังสือ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงไป ก่อนกลุ่มนักศึกษาแยกย้ายเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สภา มช. ได้รับรู้ปัญหาและความเดือดร้อนของนักศึกษาแล้ว ซึ่งสภามหาวิทยาลัยกำลังพิจารณาอยู่ ทั้งนี้ ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ได้หาแนวทางช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนมาโดยตลอด ซึ่งได้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ 250 ล้านบาทแล้ว ดังนั้น ไม่อยากให้ยึดติดกับลดค่าธรรมเนียม 30% อาจทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน นักศึกษาบางราย อาจได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าวแบบให้เปล่า ซึ่งมากกว่า 30% อยากให้ผู้บริหารและนักศึกษา ได้นั่งพูดคุยกัน เพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่า สภามหาวิทยาลัยได้รับรู้ ห่วงใยผู้ปกครอง และนักศึกษาพยายามหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวให้นักศึกษาได้รับประโยชน์มากที่สุด
นายรวิพล กล่าวว่า การยื่นหนังสือและเจรจากับสภามหาวิทยาลัยเป็นไปด้วยดี มีความพอใจระดับหนึ่ง แต่อยากให้ผู้บริหารชี้แจงถึงข้อเรียกร้องลดค่าธรรมเนียม 30% มากกว่าว่าเหมือน หรือแตกต่างจากข้อเรียกร้องนักศึกษาอย่างไรบ้าง ส่วนข้อเรียกร้องให้เปิดเวทีสาธารณะนั้นอาจทำได้ยาก เนื่องจากติดขัดหลายประการ ซึ่งผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้ชี้แจงแล้วว่า จะเชิญนักศึกษามาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งต้องรอดูว่าทิศทางเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่มีข้อยุติ อาจคลื่อนไหวและกดดันต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น น.พ.นิเวศน์ ชี้แจงกรณีการขอลดค่าธรรมเนียม 30% ว่า ในที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ มีมติให้ลดค่าธรรมเนียมได้เพียง 10% เท่านั้น ถ้าลดค่าธรรมเนียม 30% ต้องให้คณะต่างๆ เป็นผู้พิจารณาเอง ซึ่งมหาวิทยาลัยไม่ขัดข้อง แต่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาได้