อากู๋ แกรมมี่มั่นใจ 2ช่องทีวีดิจิตอล จะถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า หลังลดการขาดทุนด้วยการนำธุรกิจ GMM Z ให้ CTH บริหาร
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เชื่อว่าผลประกอบการในปีนี้(57) จะขาดทุนลดลงจากปีก่อน หลังจากบริษัทหยุดภาระขาดทุนในธุรกิจเพย์ทีวีตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการร่วมมือกับ ซีทีเอช
แต่ทั้งปี คาดว่าจะยังขาดทุนอยู่เล็กน้อย จากการลงทุนช่วงแรกในธุรกิจดิจิตอลทีวี ทำให้รายได้รวมปีนี้ จะใกล้เคียงปีก่อนที่ 1 หมื่น 1 พันล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากมีรายได้จากค่าโฆษณาของซีรีส์ฮอร์โมน และสงครามนางฟ้า
ส่วนในปี 2558 รายได้ของแกรมมี่ น่าจะมากกว่าปีนี้ เพราะมีรายได้จากธุรกิจทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ที่จะสร้างรายได้มากกว่า 2 พันล้านบาท และจะถึงจุดคุ้มทุนภายในปีหน้า
ทั้งนี้ หลังทุ่มงบลงทุนในทีวีดิจิตอล 2 ช่อง รวมกว่า 2-3 พันล้านบาท /แกรมมี่ มั่นใจว่าธุรกิจทีวีดิจิตอล จะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 50% ของรายได้รวมภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
ด้านบริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด จับมือกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ในการผลิตและจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ภายใต้แบรนด์ “จีเอ็มเอ็ม แซท ซีซั่น บาย ล็อกซเล่ย์” ซึ่งเป็นกล่องทีวีดิจิตอล รุ่น T2 (ทีทู) ระดับไฮเอนด์ เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ พฤศจิกายนนี้ ราคา 999 บาท พร้อมเสาอากาศ เหมาะสำหรับกลุ่มคนเมือง โดยเฉพาะคนที่อาศัยในคอนโดฯ
มั่นใจว่า จะจำหน่ายได้กว่า 10% ของจำนวนการแจกคูปองล็อตแรก 4 ล้านใบ หรือตลอดทั้งโครงการแจกคูปอง จะมีส่วนแบ่ง 10% เช่นกัน โดยมีช่องทางจำหน่ายใหม่ คือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 23 สถานี รวมถึงช่องทางอื่นๆ เช่น เทสโก้ โลตัส , โฮมโปร , ร้านอมร , ทีดับบลิวแซท , ไอทีซิตี้ , ซีเจเอ็กซ์เพรส และเดอะมอลล์ เป็นต้น
หลังจากนี้ จะนำเสนอกล่องทีวีดิจิตอล ออกมาอีกหลายรุ่น และยังจำหน่ายกล่อง “จีเอ็มเอ็ม แซท” อีก 3 รุ่นในตลาด ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก โดยสิ้นปีนี้ จะมีรายได้กว่า 800-900 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากกล่องทีวีดิจิตอล จะเข้ามาในปีหน้า หรือมีสัดส่วนรายได้ที่ 25% และอีก 75% มาจากกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ทำให้ปีหน้า บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 1 พันล้านบาท
สำหรับล็อกซเล่ย์ จะดูแลเรื่องฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ขณะที่ “จีเอ็มเอ็ม แซท” ดูเรื่องการทำตลาดและการขาย โดยแบ่งรายได้ 50% เท่าๆ กัน