ผู้ค้าน้ำมันลดราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์ อีก 50 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ กบง. ขึ้นแอลพีจี ภาคขนส่ง 63 สตางค์ ให้เท่าภาคครัวเรือน และเก็บเงินจากดีเซล เข้ากองทุนน้ำมันฯ หวังปรับฐานะกองทุน เป็นบวกภายใน 10 วัน
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. มีมติปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ภาคขนส่ง 63 สตางค์ต่อกิโลกรัม มีผลพรุ่งนี้(21 ต.ค.) ส่งผลให้แอลพีจี ภาคขนส่ง จะเท่ากับภาคครัวเรือนที่ 22 บาท 63 สตางค์ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
นอกจากนี้ กบง. ยังเก็บเงินจากดีเซล เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อีก 70 สตางค์ต่อลิตร เป็น 3 บาท 70 สตางค์ต่อลิตร แต่ราคาขายปลีกยังอยู่ที่ 29 บาท 39 สตางค์ต่อลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น และจะกลับมาเป็นบวกได้ใน 10 วัน จากปัจจุบัน ติดลบอยู่ 1,900 กว่าล้านบาท
ส่วนราคาน้ำมันตลาดโลก ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง กบง. จึงเห็นว่า ผู้ค้าน้ำมัน ควรลดราคากลุ่มเบนซินลง เพื่อให้ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่เกิน 1 บาท 50 สตางค์ต่อลิตร
ส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมัน ทั้ง ปตท. และบางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินและโซฮอล์ ลง 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 , E20 และดีเซล ยังคงเดิม มีผลหลังเที่ยงคืนวันนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดราคาครั้งที่ 4 แล้วในเดือนนี้(ต.ค.) รวมลดลงเฉลี่ย 2 บาทต่อลิตร