หลังจากที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจถึง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป... เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า จดหมายถึงหัวหน้าคนใหม่ : ปชป. ต้องรักษา 'ชาติ ศาสน์ กษัตริย์'
ท่านที่ยึดหลักรักษา “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” และปฏิเสธ “ระบอบทักษิณ” อย่างชัดเจน จะได้รับเสียงสนับสนุนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และเป็นความหวังของคนไทย
“ปลุกระดมหมิ่นเบื้องสูง สร้างวาทกรรมตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ผูกเรื่องให้อภิสิทธิ์เป็นเผด็จการ ทั้งที่ความจริงเลือกนายกกันในสภา พาคนไปชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง ผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่เสียชีวิตกลับไม่สืบหาฆาตกรมาลงโทษ แต่เลือกจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม แถมพ่วงล้างผลคดีทุจริตของพวกพ้อง ทุจริตจำนำข้าวชาติเสียหายหลายแสนล้าน” เรื่องพวกนี้เราเห็นกันมาแล้วทั้งสิ้น อย่าให้มันวนกลับมาอีก
กระบวนทัศน์ ต้องชัดเจนเพื่อชี้นำสังคมไปในทางที่ดี อย่าปล่อยให้คนเลวได้ปกครองบ้านเมือง ต้องรักษาแนวร่วมที่มีเป้าหมายเดียวกัน หัวหน้าพรรค ปชป. คนใหม่ ต้องตระหนักว่า พรรคการเมืองใดคือแนวร่วมที่ต้องเดินไปด้วยกัน และพรรคใดที่ต้องแยกทางกันเด็ดขาด
การเลือกตั้งผ่านไปแล้ว รอเพียงผลเลือกตั้งให้นิ่งอย่างเป็นทางการเท่านั้น หาก พปชร. ปชป. ภูมิใจไทย และพรรคร่วมอื่น รวมกันมี ส.ส.เกิน 250 คน ก็เป็นหลักประชาธิปไตยสากลที่จะเป็นรัฐบาลได้อยู่แล้ว ส่วน ส.ว. แต่งตั้ง ก็ควรเคารพเสียงที่ประชาชนเลือก ส.ส. เข้ามา โดย ปชป. เองยังมี “อิสระในมาตรฐานจริยธรรม” ในการถอนตัวทันทีหากรัฐบาลทุจริตในอนาคต
เกือบ 5 ปีมานี้ เราก็ทราบว่ารัฐบาล คสช. มีจุดอ่อนที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ปชป. ได้เพียรพยายามทำงานกับสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย (FIT) จนคลอดนโยบายที่ชัดเจน พร้อมทำงาน แต่มันจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเป็นรัฐบาล
อย่ารีบฟันธงเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่จำนวน ส.ส. ยังไม่นิ่ง ต้องเดินตามหลักการ “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” ที่ได้เคยพูดไว้ มิเช่นนั้นผลมันจะออกมาได้แค่ 2 ทาง คือ 1. รัฐบาลเผด็จการ คสช.อยู่ต่อพร้อม ม.44 เพราะยังตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยไม่ได้ หรือ 2. สุดารัตน์เป็นนายก ผมขอย้ำว่าเป้าหมายและกระบวนทัศน์ต้องมั่นคง
ทั้งนี้ ขึ้นกับผู้บริหาร และ ส.ส.ใหม่ของ ปชป. ว่าจะพาพรรคไปในทิศทางใด ผมฝากหัวหน้าคนใหม่ว่าต้องยืนให้มั่นคง ดำรงเป้าหมายให้ดี และมีความกล้าหาญ ผมเชื่อว่าคนหัวใจเพชรที่เลือกประชาธิปัตย์ 3.9 ล้านเสียง และอีก 7.5 ล้านเสียงที่เปลี่ยนใจไปเลือกพรรคอื่นแล้ว ก็คงส่งใจเชียร์ให้ประชาธิปัตย์ เข้มแข็งและมั่นคงในแนวทางการรักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เช่นกัน