วันที่ 18 ก.พ. ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลลนั้น ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง (รมช.) มหาดไทย ในกรณีมีผลประโยชน์เบื้องหลังโครงการ ‘เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจะนะ เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต’ โดยระบุว่า นิพนธ์ บุญญามณี ในฐานะ นายก อบจ. สงขลา เคยแถลงต่อสภา อบจ. ไว้ วันที่ 5 ก.ย. 2556 ว่าจะพัฒนาพื้นที่พลังงาน ท่าเรือน้ำลึก และอุตสาหกรรม ในพื้นที่อำเภอจะนะ นาหม่อม เทพา ซึ่งคนในพื้นที่รู้กันดีว่า มีการเอางบฯ อบจ. ไปลงในพื้นที่อำเภอแถบนั้นมากผิดปกติ กระทั่งต่อมา วันที่ 16 ก.พ. 2561 นายนิพนธ์ ในฐานะนายก อบจ. ได้เข้าพบสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเวลานั้น เพื่อหารือแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจของ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ผ่านการลงทุนขนาดใหญ่ของเอกชน โดยยกระดับให้เป็นอุตสาหกรรมพลังงานครบวงจรหรือ Energy complex จนนำมาสู่มติ ครม. วันที่ 7 พ.ค. 2562 ซึ่งเป็นมติ ครม. ทิ้งทวนของ คสช. หลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ในช่วงที่อยู่ในสูญญากาศระหว่างการตั้งรัฐบาลใหม่ โดยได้มีเห็นชอบขยายผลโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนไปสู่พื้นที่ อ.จะนะ ดังนั้น การที่นายนิพนธ์ให้ข่าวว่าโครงการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 นั้นผิด เพราะเป็นตัวนายนิพนธ์เองที่เป็นคนวิ่งเต้นเอาโครงการจะนะไปสอดไส้โครงการเดิม เพราะโครงการเดิมตามมติ ครม. 2559 มีแค่ 3 พื้นที่คือ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี , อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และอ.เบตง จ.ยะลา แต่ไม่ได้มี อ.จะนะ รวมอยู่ด้วย
ประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า โอกาสที่อุตสาหกรรมจะเกิดมีน้อยมาก แต่เหตุที่รัฐบาลและ นิพนธ์เร่งรัดผลักดันโครงการเมืองจะนะให้เกิด พบว่า กลุ่มทุนคือ TPIPP ที่มาพร้อมแผนการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยโครงการทั้งหมดที่วางแผนไว้ 3,700 เมกกะวัตต์ โดยเอกสารเตรียม EIA ของบริษัท TPIPP เอง เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 63 ที่ผ่านมาบอกชัดเจนเลยว่า TPIPP เป็นคนไปเสนอแผนการผลักดันพัฒนาโครงการในพื้นที่จะนะ ซึ่งวันที่ 21 ม.ค. 64 ครม. มีมติรับทราบไปแล้ว 1,700 เมกกะวัตต์ ที่เอื้อให้เกิดโรงไฟฟ้าของบริษัท TPIPP ขึ้นในพื้นที่อำเภอจะนะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังสงสัยว่าทำไมไม่ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจเป็นฝ่ายทำ
ดังนั้น ถ้าโครงการยังเดินหน้าต่อไปแบบนี้ คาดว่าว่าโรงไฟฟ้าก็จะมาอีกเรื่อยๆ โครงการจะนะเมืองก้าวหน้าแห่งอนาคตจะไม่มีอนาคตของประชาชน แต่จะกลายเป็นโรงไฟฟ้าของกลุ่มทุน ไม่แตกต่างจากที่เกิดขึ้นกับ มาบตะพุด จ. ระยอง ทั้งนี้ บริษัทเครือ TPI ยังมีชื่อเป็นหนึ่งในผู้บริจาคเงินผ่านโต๊ะจีนประชารัฐ มีสายสัมพันธ์แนบแน่นใกล้ชิดกับทั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงกับนิพนธ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ เราจึงเห็นความพยายามผลักดันโครงการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนอย่างแข็งขัน
แฉเครือญาติ-เครือข่าย 'นิพนธ์' เอี่ยวการจัดซื้อที่ดินในพื้นที่่โครงการ
ประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ข้อมูลการซื้อขายที่ดินจากสารบบที่ดินและหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน สำเนาโฉนดที่ดิน ในพื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เฉพาะกิจ 3 ตำบล ของ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งก็คือที่ดินที่ท่านจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วง ข้อมูลนี้ ได้มาจากเอกสารของ อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งขอข้อมูลมาจาก สำนักงานที่ดิน จ.สงขลา สาขาจะนะ และข้อมูลที่ได้มามีเพียงเดือนเดียว คือ ม.ค. 2563 เดือนที่ ครม. มีมติ เปลี่ยนสีผังเมือง ประเด็นสำคัญคือ บรรดาตัวละครสำคัญที่เกี่ยวข้องหลายคนล้วนเป็น ‘เครือข่ายเครือญาติใกล้ชิด’ ของ นิพนธ์ ที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่
ประเสริฐพงษ์ ระบุว่า นิพนธ์ กำกับดูแลกรมที่ดิน แต่กลับมีเครือญาติเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ในพื้นที่ที่ตัวเองผลักดันโครงการ และร่วมออกมติ ครม.ผลักดัน มีการออกนโยบาย และใช้อำนาจในทางบริหารเร่งรัดออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ใช้ข้อมูลภายในในฐานะรัฐมนตรี ร่วมคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติดำเนินโครงการ เอื้อประโยชน์ให้เครือญาติกว้านซื้อที่ดิน รวมทั้ง รู้เห็นเป็นใจให้ญาติสนิทที่เป็นเครือข่ายตนใช้อิทธิพลทำข้อตกลงขายที่ดินในราคาไม่เป็นธรรม รวมทั้งบังคับ ข่มขู่ กดดัน ให้ชาวบ้านยอมขายสิทธิ์เหนือที่ดินทำกินในราคาถูก ตนจึงไม่สามารถไว้วางใจให้นายนิพนธ์ต่อไปได้ รวมถึงไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่รู้อยู่แล้วว่าคนคนนี้มีประวัติที่ไม่โปร่งใส ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
นายกฯ ปัดเอื้อประโยชน์พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เดือด ส.ส.หัวเราะหยุดแจงกลางอากาศ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงในฐานะผู้กำกับการกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคใต้ โดยขอให้แยกแยะเป็นรายโครงการ เพราะไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถดำเนินโครงการขนาดใหญ่ได้ สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องมีการตรวจสอบ โดยยืนยัน ว่าตนไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับใคร และไม่ใช่ไปกล่าวหาพันกัน มีการเอื้อประโยชน์ แต่ใครที่ได้ประโยชน์ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ หากพบการทุจริตก็แก้ไป แต่อย่าให้โครงการใหญ่ที่กำหนดยุทธศาสตร์ไว้แล้วต้องสะดุด พังพินาศไปด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่าปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้มีปัญหาที่ซับซ้อนในหลายมิติทั้งเศรษฐกิจและสังคม ถ้าชาติพันธ์ ศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ดังนั้นจะต้องมีการแก้ปัญหาอย่างละเอียดอ่อน จึงมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ จากเดิม 3 จังหวัด 3 พื้นที่ และมาเพิ่มที่จังหวัดสงขลา ที่อำเภอจะนะ ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลก็ได้จัดคณะกรรมการลงไปดูแล ส่วนที่กล่าวหาว่าใน 10 เขตเศรษฐกิจพิเศษไม่มีความก้าวหน้านั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าทุกอย่างเป็นการเตรียมการ ต้องรอระยะเวลา ไม่ใช่ตั้งวันนี้แล้วจะได้เลย และหาจุดเชื่อมต่อศักยภาพ
ส่วนการเปลื่ยนสีผังเมืองนั้น ก็เกิดจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่ว่าใครจะไปออกสีโน้น สีนี้ได้ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ และมีการทำประชาพิจารณ์ทั้งหมด ถูกต้องอย่างไรให้ไปว่ากันตามกระบวนการ และตนขอชี้แจงในนามรัฐบาล ในนามนายกรัฐมนตรี การลงทุนมีความจำเป็นที่ต้องให้มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ตนสั่งการเช่นนี้ทุกครั้งไม่มีละเว้นการ แต่การตรวจสอบนั้นมีกลไกลอยู่ สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ แจ้งองค์กรอิสระตรวจสอบได้ การจะบอกว่าใครผิดถูกในสภานี้ไม่ใช่ศาลที่มาจะชี้ว่าใครผิดใครถูก เพราะศาลอยู่ข้างนอก ตนไม่อยากให้การพูดในวันนี้ ทำให้เกิดผลกระทบเรื่องการลงทุนจากประเทศอื่น รวมถึงกังวลว่าจะลามไปสู่พื้นที่อื่น เช่น EEC
ทั้งนี้ ยังไม่ทันจบการชี้แจง นายกรัฐมนตรีได้หยุดและมองไปที่ ส.ส.ช่วงหนึ่ง ก่อนจะยุติการชี้แจงแล้วบอกว่า "ผมขอชี้แจงเพียงเท่านี้ เพราะพูดไปก็ไม่มีใครฟัง เห็นหัวเราะกันอยู่"
นิพนธ์ โต้ ก้าวไกลตัดแปะข้อมูลฝั่งไม่เห็นด้วย
ขณะที่ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ชี้แจงกรณีการกล่าวหากเอื้อการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินนิคมอุตสาหกรรมจะนะให้เอกชน จังหวัดสงขลา ว่า เป็นการนำข้อมูลจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมาตัดแปะ โดยจะชี้แจงในรายละเอียดที่ดิน 3 แปลงที่เกิดข้อพิพาท ได้มีการนำเรื่องไปร้องยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว และแจ้งเรื่องดังกล่าวมายังกรมที่ดินแล้ว โดยมีหนังสือข้อพิจารณาว่า เห็นว่ากรณีร้องเรียนดำเนินการรางวัดที่ดิน 3 ผืน พบว่าบริษัท ทีพีไอโพลีน พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือครองสิทธิ์ที่ดินตาม และจากการรังวัดที่ดินทางอากาศพบว่าที่ดินทั้ง 3 แปลง ตั้งอยู่ที่แนวทับซ้อนกับการร้องเรียน และขณะนี้ยังไม่มีการออกโฉนดที่ดินในแปลงที่มีข้อพิพาทแต่อย่างใด เห็นควรสั่งยุติข้อร้องเรียน เรื่องที่นำมากล่าวหาตนว่าใช่อำนาจหน้าที่ นำที่ดินของประชาชนไปให้เอกชน ถือเป็นข้อกล่าวหาเท็จทั้งสิ้น สิทธิครอบครองที่ดินก็พิพาทกันอยู่ก็ไปว่ากันในศาล เป็นเรื่องปกติทางแพ่ง ไม่เห็นเกี่ยวกับตนตรงไหน จับแพะชนแกะ ตัดแปะเอกสารมาว่าตน และที่ดินแปลงนี้ออกเอกสารปี 2517 มีการโอนเอกสิทธิ์ซื้อขายที่ดินตามท้องตลาด แล้วบอกว่าตนรังแกชาวบ้าน ไม่ได้แย้งที่ดินมาครอบครอง
ส่วนกรณีที่บอกว่ามีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินและเอื้อผลประโยชน์ให้พวกพ้องนั้น นิพนธ์ ยืนยันว่า แปลงที่เจ้าหน้าที่ที่ดินจะได้รับการสำรวจ ไม่เกี่ยวกับตน เขาถือครองที่ดินก่อนที่ตนจะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ตนเป็นคนจะนะ บรรพบุรุษอยู่นาทับ จึงรู้เรื่องเป็นอย่างดี การออกเอกสารสิทธิ์อาศัยคำประกาศของกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2562 ซึ่งไม่ใช่มีการกำหนด 4 อำเภอ ในเขตผังเมือง ในเขตอุตสาหกรรมจะนะ โดยประกาศว่าจะมีการสำรวจในทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ของจังหวัดสงขลา เมื่อ 22 ต.ค. 2561 เป็นการประกาศก่อนที่ตนจะมาดำรงตำแหน่ง มีการเข้ารางวัดครั้งแรก 1 ก.ค. 2562 ยืนยันเอกสารเป็นของกระทรวงมหาดไทยก่อนที่ตนจะมาดำรงตำแหน่ง
นิพนธ์ ระบุว่าตนเป็นผู้แทนมา 8 สมัย 25 ปีไม่นำเอกสารเหล่านี้มาอภิปรายในสภา โดยหากเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบธรรมตนจะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ยืนยันว่านโยบายการออกสำรวจที่ดินนั้นประชาชนพอใจ เพราะการออกโฉนดถือเป็นความมั่นคงทรัพย์สินและชีวิต ตนมาอยู่พยายามเร่งรัดให้ออกโฉนดหากที่ดินเหล่านั้นไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ ไม่มีการเอื้อเปลี่ยนหนังสือกรรมสิทธิ์ให้นายทุน เอาอะไรมาพูด ใครจะบังคับใครขายได้ ชาวบ้านรอมานานที่จะได้ออกสิทธิ์โฉนดที่ดิน
ทั้งนี้ นิพนธ์ ระบุว่า มติ ครม.อนุมัติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ออกมาเมื่อ 7 พ.ค. 2562 ขยายนิคมสามเหลี่ยมมั่นคงมั่งคั่ง เมืองตนแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เพื่อยกระดับ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ตนยังไม่เป็นคณะรัฐมนตรีแล้วจะใช้อำนาจหน้าที่ได้อย่างไร ยอมรับว่าโครงการนี้คนไม่เห็นด้วยก็มาก ตนเคารพความเห็นต่าง ตนเชื่อว่าไม่ได้คัดค้านโครงการนี้เป็นโครงการแรก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง