ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเสรีนิยมของจัสติน ทรูโดชนะการเลือกตั้งแคนาดาอีกหนึ่งสมัย แต่ก็เสียงที่นั่งในสภาไปจากเดิมหลายที่นั่ง จนไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้

สำนักข่าวซีบีซีของแคนาดารายงานว่า พรรคเสรีนิยมของจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาสามารถชนะการเลือกตั้งทั่วไป ได้ที่นั่งในรัฐสภาไปได้มากเป็นอันดับ 1 แต่ชัยชนะของพรรคเสรีนิยมครั้งนี้ก็ยังไม่สวยงามนัก เพราะครั้งนี้พรรคเสรีนิยมเสียที่นั่งในสภาไปจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่ได้ไปถึง 184 ที่นั่ง น่าจะลงมาอยู่ที่ 156 ที่นั่งเท่านั้น ในขณะที่พรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งเพิ่มมาเป็น 122 ที่นั่ง

แม้พรรคอนุรักษ์นิยมจะได้รับคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตไปร้อยละ 34.4 ขณะที่พรรคเสรีนิยมได้ไปเพียงร้อยละ 33.1 แต่พรรคเสรีนิยมสามารถชนะการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตส่วนใหญ่ในแอตแลนติก แคนาดา ควิเบก และออนแทริโอ แต่พรรคเสรีนิยมได้ที่นั่งไม่ถึง 170 ที่นั่งหรือกึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภา ทำให้ต้องจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ร่วมกับพรรคอื่น

หลายคนมองว่า ผลการเลือกตั้งนี้เป็นปรากฏการณ์ “ทรูโดมาเนีย” เนื่องจากปิแอร์ ทรูโด พ่อของจัสติน ทรูโดก็ชนะเลือกตั้งครั้งแรกแบบทิ้งห่างคู่แข่ง แต่เมื่อแต่งงานกับมากาเร็ต โจน ซินแคลร์ไม่นาน ความนิยมของเขาก็ลดลง โดยชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในปี ด้วยคะแนนที่สูสีมากที่ 109 ที่นั่ง ขณะที่พรรคอนุรักษ์นิยมได้ 107 ที่นั่ง

คะแนนนิยมที่ลดลงอย่างรวดเร็วของทรูโดเป็นผลมาจากการถูกโจมตีอย่างหนักในช่วงท้ายของแคมเปญการเลือกตั้ง เรื่องการทาหน้าดำในงานโรงเรียนถึง 2 ครั้ง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ถูกมองว่าเป็นการเหยียดผิว และมีการเปิดโปงว่า รัฐบาลทรูโดได้กดดันอัยการ เพื่อปกป้องบริษัทใหญ่ของแคนาดาจากการถูกไต่สวนเรื่องการทุจริต นอกจากนี้ ยัง

หลังจากที่มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการแล้ว แอนดรูว์ เชียร์ หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมที่มีคะแนนสูสีกับทรูโดมาโดยตลอด รวมถึงจักมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ที่สูญเสียเก้าอี้ในรัฐสภาไปหลายที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ และเอลิซาเบธ เมย์ หัวหน้าพรรคกรีนได้ออกมายอมรับผลการเลือกตั้ง และแสดงความยินดีกับทรูโดที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดาอีกหนึ่งสมัย

ด้านพรรคบล็อกคิเบคัวส์ พรรคที่สนับสนุนการแยกรัฐควิเบกออกจากประเทศแคนาดา สามารถครองที่นั่งในสภาไปได้อย่างน้อย 30 ที่นั่ง มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนถึง 3 เท่า โดยอีฟส์-ฟรองซัวส์ บล็องเชต์ หัวหน้าพรรคบล็อกคิเบคัวส์กล่าวว่า พวกเขาได้เดินทางมาไกลและจะไปให้ไกลกว่านี้ พร้อมกล่าวว่า พรรคของเขาจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคลิเบอรัล


ที่มา : CBC, BBC