ไม่พบผลการค้นหา
กูเกิลเปิดเผยข้อมูลการเดินทางของคนทั่วโลกช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายเพื่อเอื้อต่อการป้องกันโรคระบาด พร้อมสัญญาว่าจะไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของปัจเจกบุคคล

กูเกิลเปิดเผยการสรุปข้อมูลการเดินทางช่วงที่มีระบาดของโควิด-19 ใน 131 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย โดยข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้จะมาจากแอปพลิเคชันกูเกิลแมปและบริการโทรศัพท์มือถืออื่นๆ ของกูเกิล และจะมีการเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดเพื่อเทียบข้อมูลกับ 2-3 วันก่อนหน้า

ที่ผ่านมา กูเกิลใช้ข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้วสำหรับการระบุว่า พิพิธภัณฑ์ ร้านค้าและสถานที่ต่างๆ มีคนเดินทางไปมากน้อยขนาดไหนในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงใช้ทบทวนเส่นทางการขับรถ เพื่อช่วยผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด

ในกรณีนี้ กูเกิลได้สรุปข้อมูลออกมาว่ากลุ่มสถานที่ต่างๆ มีคนไปใช้บริการมากน้อยขนาดไหน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนที่จะมีมาตรการปิดเมืองกักตัวอยู่บ้านเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยแบ่งกลุ่มไว้ดังนี้ ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกและสันทนาการ, ร้านขายของชำและร้านขายยา, สวน หาดและพลาซ่า, สถานีรถประจำทาง รถไฟใต้ดิน และรถไฟ, อาการสำนักงานและออฟฟิศต่างๆ, และที่อยู่อาศัย

เทียบข้อมูลการเดินทางในประเทศต่างๆ

ข้อมูลเบื้องต้นของกูเกิลสรุปการเดินทางในประเทศไทยช่วงวันที่ 16 ก.พ. - 29 มี.ค.ไว้ว่า การเดินทางไปศูนย์กลางการคมนาคม เช่น สถานีรถไฟ สถานีรถไฟใต้ดิน และป้ายรถประจำทางก็ลดลงถึงร้อยละ 61 คนเดินทางไปคาเฟ่ ร้านอาหาร ศูนย์การค้าสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดและโรงภาพยนตร์กันน้อยลงร้อยละ 55 ไปอุทยานแห่งชาติ ชายหาดสาธารณะ ท่าเรือ สวนสาธารณะ และพลาซ่าน้อยลงร้อยละ 54

ส่วนไปตลาดขายของชำ ตลาดเกษตรกร ซูเปอร์มาร์เก็ตขายอาหาร และร้านขายยาลดลงร้อยละ 27  และการเดินทางไปออฟฟิศต่างๆ ลดลงเพียงร้อยละ 21 ในขณะที่การเดินทางในย่านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 16

ด้านอิตาลีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด มีการเดินทางไปศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกและสันทนาการลดลงถึงร้อยละ 94 ไปร้านขายของชำและร้านขายยาน้อยลงร้อยละ 85 ไปสวน หาดและพลาซ่าลดลงร้อยละ 90 ไปศูนย์กลางการคมนาคมน้อยลงร้อยละ 87 และไปออฟฟิศน้อยลงร้อยละ 63 ส่วนการเดินทางในย่านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 24

ส่วนคนในเยอรมนีเดินทางไปศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกและสันทนาการลดลงถึงร้อยละ 77 ไปร้านขายของชำและร้านขายยาน้อยลงร้อยละ 51 ไปสวน หาดและพลาซ่าลดลงร้อยละ 49 ไปศูนย์กลางการคมนาคมน้อยลงร้อยละ 68 และไปออฟฟิศน้อยลงร้อยละ 39 ส่วนการเดินทางในย่านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11

ขณะที่ญี่ปุ่นไม่ได้ลดการเดินทางลงจากเดิมมากนัก มีการเดินทางไปศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกและสันทนาการลดลงร้อยละ 26 ไปร้านขายของชำและร้านขายยาน้อยลงร้อยละ 7 ไปสวน หาดและพลาซ่าลดลงร้อยละ 25 ไปศูนย์กลางการคมนาคมน้อยลงร้อยละ 41 และไปออฟฟิศน้อยลงร้อยละ 9 ส่วนการเดินทางในย่านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7

เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่การเดินทางไม่ได้ลดลงมากนัก มีการเดินทางไปศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกและสันทนาการลดลงร้อยละ 28 ไปร้านขายของชำและร้านขายยาน้อยลงร้อยละ 6 ไปสวน หาดและพลาซ่าลดลงร้อยละ 12 ไปศูนย์กลางการคมนาคมน้อยลงร้อยละ 40 และไปออฟฟิศน้อยลงร้อยละ 15 ส่วนการเดินทางในย่านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 15

ในทางกลับกัน การเดินทางในเกาหลีใต้ในบางกลุ่มไม่ลดลงมาก และในบางกลุ่มยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะการไปสวน หาดและพลาซ่าที่เพิ่มขึ้นมาถึงร้อยละ 51 ไปร้านขายของชำและร้านขายยามากขึ้นร้อยละ 11 แต่การเดินทางไปศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกและสันทนาการลดลงร้อยละ 19 ไปศูนย์กลางการคมนาคมน้อยลงร้อยละ 17 และไปออฟฟิศน้อยลงร้อยละ 12 ส่วนการเดินทางในย่านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6

ทั้งนี้ กูเกิลไม่สามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้ในจีนได้ จึงไม่มีรายงานดังกล่าวออกมา

กูเกิลหวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคระบาด

กูเกิลหวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอื่นๆ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการเดินทางการที่จำเป็น เพื่อให้เห็นชั่วโมงการทำงานหรือให้ข้อมูลกับบริการส่งสินค้า เช่น การเดินทางไปยังศูนย์กลางการคมนาคมจะบอกได้ว่าควรจะเพิ่มรถประจำทางหรือรถไฟ เพื่อให้คนกระจายกันขึ้นรถตามนโยบายเว้นระยะทางสังคม

กูเกิลสัญญาว่าจะรักษาความเป็นส่วนตัวของปัจเจกบุคคล โดยกูเกิลใช้ทั้งข้อมูลที่เก็บแบบนิรนามและข้อมูลการค้นหาที่ไม่เปิดเผยประวัติของผู้ใช้ และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดสามารถเลือกไม่ให้ข้อมูลกับกูเกิลได้

รอรี เซลลัน-โจนส์ ผู้สื่อข่าวเทคโนโลยีของบีบีซีระบุว่า ข้อมูลเหล่านี้อาจพิสูจน์ให้คนที่ไม่รู้ตัวเห็ฯว่า กูเกิลเก็บข้อมูลของเราไปมากขนาดไหน และการให้ข้อมูลว่าการล็อกดาวน์ได้ผลอย่างไร อาจทำให้เกิดผลที่ไม่คาดคิดตามมา เช่น คนอาจตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่ที่คนไปเยอะ หรืออาจรู้สึกประหลาดใจที่คนออกไปข้างนอกกันเยอะ จึงคิดว่าจะออกไปบ้าง 


 ที่มา : Google, BBC, ZD Net