ไม่พบผลการค้นหา
"โอไมครอนคือสิ่งที่ทำให้เป็นกังวล ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ตื่นตระหนก"

"เราจะสู้ และเอาชนะโควิดกลายพันธุ์ให้ได้" ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันกับประชาชนท่ามกลางความกังวลของโลกเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน"

สำนักข่าว BBC รายงานว่าเพียงหนึ่งวันหลังการตรวจพบการติดเชื้อในอเมริกาเหนือ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมายืนยันกับประชาชนโดยการเรียกโควิดกลายพันธุ์โอไมครอนว่าเป็น "สิ่งที่ทำให้เป็นกังวล ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ตื่นตระหนก"

ไบเดนยังยืนยันด้วยว่าเขายังไม่เห็นถึงความจำเป็นในการล็อกดาวน์ในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากประชาชนได้รับวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัยก็ยังไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ บรรดาบริษัทผู้ผลิตยาต่างกำลังเร่งมือวางแผนเพื่อรับมือสถานการณ์นี้ และการผลิตวัคซีนเพิ่มหากจำเป็น

การติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ชนิดล่าสุดในอเมริกาเหนือถูกยืนยันที่ประเทศแคนาดา ทำให้รัฐบาลแคนาดามีคำสั่งในวันที่ 26 พ.ย.ห้ามไม่ให้นักเดินทางจากหรือผ่านประเทศในแอฟริกาใต้ในรอบ 14 วันก่อนหน้าเดินทางเข้าประเทศ โดยมีการเปิดเผยในวันที่ 29 พ.ย.ว่ามีผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์ทั้งหมด 2 คน ก่อนจะพบเพิ่มอีก 1 คนในวันที่ 30 พ.ย.

ขณะที่สหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการสั่งห้ามไม่ให้นักเดินทางจาก 8 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาใต้เดินทางเข้าประเทศแล้วเมื่อสุดสัปดาหฺที่ผ่านมา สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายโดยเฉพาะบรรดารัฐบาลในแอฟริกาใต้ที่ชี้ว่ากำลังถูก "ล่าแม่มด" 

ไบเดนยอมรับว่า แทบจะเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะห้ามไม่ให้มีการนำเชื้อกลายพันธุ์นี้เข้ามายังสหรัฐฯ พร้อมกล่าวว่า "เราจะสู้และเอาชนะโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ให้ได้"

ผู้นำสหรัฐฯ ยังชี้ด้วยว่า การประกาศแบน 8 ประเทศคือการซื้อเวลาให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ ได้ศึกษาเกี่ยวกับโอไมครอน ขณะที่ WHO ลงความเห็นว่าโอไมครอนคือสายพันธุ์ที่ "น่ากังวล" และยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าไวรัสสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าและหลบหลีกวัคซีนได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิมหรือไม่