ไม่พบผลการค้นหา
รีสอร์ตหรูต่างๆ ในสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม เนื่องจากคนรวยไปกักตัวนอกเมือง เพื่อใกล้ชิดธรรมชาติ ทำให้เกิดความกังวลว่าโรงพยาบาลท้องถิ่นอาจรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว

สำนักข่าวเดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า เมืองสกี โรงแรมและรีสอร์ตหรู ย่านชานเมืองของสหรัฐอเมริกา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากขึ้น เนื่องจากโรคระบาดทำให้คนรวยเลือกจะหลบไปอยู่ในรีสอร์ตห่างไกลตัวเมือง เพราะสงบและมีธรรมชาติแทนการกักตัวอยู่ในเมือง

ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ได้สัดส่วนนี้ ทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ และกังวลว่า โรงพยาบาลขนาดเล็กของท้องถิ่นจะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นได้ เช่น เมืองเคตชัม มลรัฐไอดาโฮ เมืองที่ใกล้กับสกีรีสอร์ตหรูซันแวลลีย์ ยอดผู้ติดเชื้อในเขตนี้จนถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 351 คน ทั้งที่มีประชากรอาศัยอยู่ที่นี่เพียง 22,000 คนเท่านั้น

หลายทศวรรษที่ผ่านมา ซันแวลลีย์รองรับนักสกีจำนวนมาก และเป็นสถานที่ที่เหล่าดาราและมหาเศรษฐีไปพักผ่อนกัน ตั้งแต่อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนเกอร์, มาริลิน มอนโร, คลินต์ อีสต์วูด ไปจนถึงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แต่นีล แบรดชอว์ นายกเทศมนตรีเมืองเคตได้ขอร้องให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่เมือง เพื่อลดการติดเชื้อ พร้อมระบุว่า พื้นที่นี้ไม่ใช่สถานที่สำหรับ “การพักผ่อนจากไวรัส” 

เทรนด์เดลี ยอนเดอร์ สำนักข่าวเกี่ยวกับนอกเมืองได้วิเคราะห์ไว้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดที่ไอดาโฮเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วสหรัฐฯ บริเวณนอกเมืองที่มักมีรายได้มาจากการพักผ่อนหย่อนใจมีอัตราการติดเชื้อมากกว่า พื้นที่นอกเมืองพี่มีรายได้จากอุตสาหกรรมอื่นๆ มากกว่า 3 เท่า

บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวซอลต์เลกทริบิวน์ว่า พื้นที่เหล่านี้เป็นหนึ่งในเมืองที่มียอดผู้ติดเชื้อต่อประชากรสูงที่สุดในประเทศรองลงมาจากเมืองใหญ่นิวยอร์กซิตี้และนิวออร์ลีนส์เท่านั้น เช่น เมืองเวล มลรัฐโคโรลาโด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ตยอดนิยม ที่มีกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อจำนวนมาก หลังจากที่ 400 คน รวมถึงผู้บริหารธุรกิจต่างๆ กลับจากรีสอร์ทที่กวาดาราฆาราของเม็กซิโก และในจำนวนนี้มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในสหรัฐฯ อย่างน้อย 3 คนแล้วที่ติดเชื้อ

หลังจากที่ชาวนิวยอร์กซิตี้หนีไวรัสโคโรนาไปบ้านพักฤดูร้อนของตัวเองที่ลองไอส์แลนด์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของมลรัฐนิวยอร์ก ประชากรลองไอส์แลนด์จำนวนมากก็รู้สึกไม่พอใจ และมองว่าทุกคนควรจะอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อไม่ให้โรคแพร่ระบาดขึ้นไปที่ลองไอส์แลนด์ เช่นเดียวกับที่เดอะแฮมป์ตันส์ ชุมชนบริเวณชายฝั่งทะเลของนิวยอร์กก็มีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก

จุดท่องเที่ยวในอากาศที่อุ่นของสหรัฐฯ ก็ได้รับผลกระทบด้วย ปาล์มบีชในมลรัฐฟลอริดากลายเป็นเขตที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในมลรัฐ ที่ 27 ราย จากทั้งหมด 144 รายในฟลอริดา แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุของการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและแพทย์ในโรงพยาบาลท้องถิ่นต่างระบุว่า ผู้ติดเชื้อที่พวกเขาพบมันจะมาจากเมืองใหญ่ 

ด้านเครือโรงแรมหรูอย่างสวิสโฮเทลก็โฆษณาว่าจะเปิดห้องหรูของโรงแรมเลอบิจูในเมืองซูริกให้คนไปกักตัวในราคา 500 ดอลลาร์ โดยจะมีบริการด้านสุขภาพในห้องพักรวมถึงบริการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วย

อย่างไรก็ตาม เรเน เฟรย์ ซีอีโอของรัฟไกด์ส์ นิตยสารแนะนำการท่องเที่ยวเชื่อว่า สวิสโฮเทลไม่มีความรับผิดชอบ ไร้จริยธรรม และดำเนินธุรกิจอย่างผิดๆ ในการเปิดบริการเช่นนั้นในช่วงที่มีโรคระบาด การรับจองห้องในลักษณะนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าโรงแรมขาดการมีส่วนร่วมกับร้านค้าเล็กๆ ทั่วไปที่ต้องยอมปิดเพราะรัฐบาลออกกฎหมายมาควบคุมโรคระบาด

ที่มา : The Guardian, CNBC