เมื่อเวลา 17.30 วันที่ 7 ก.ย. 2563 ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนน และ ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก ประธานกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตยได้รับการปล่อยตัวพ้นจากเรือนจำ หลังศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตตามที่ สน.สำราญราษฎร์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองคนเพราะได้ทำการสอบสวนมามากพอสมควรแล้ว
โดยทันทีที่ อานนท์ ได้รับการปล่อยตัวได้เดินออกมาพร้อมกับ ภาณุพงศ์ โดยมีทรงผมที่ตัดสั้นเกรียนสามด้าน โดยสวมเสื้อสีขาว ซึ่งมี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์พาทั้งสองออกจากเรือนจำ
ทั้งนี้ อานนท์ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัว เป็นกำลังใจให้นักต่อสู้ต่อไปทุกคนโดนคดี การต่อสู้ของเรามีความสำคัญทุกย่างก้าว ไม่ว่าจะฝากขังและทนายความคัดค้าน หรือยอมสละเสรีภาพตัวเเอง ซึ่งเป็นบทเรียนให้ผู้ใช้อำนาจต้องมีความเป็นธรรม ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้ต่อไป ทุกอย่างที่วางการเคลื่อนไหวไว้ยังเหมือนเดิมน่าจะมีการขยับอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ชุมนุมเราจะร่วมชุุมนุมและขึ้นเวทีแน่นอน
"เราไม่ได้มีอภิสิทธิ์กว่าผู้ต้องขัง เป็นเรือนจำที่ดี ยืนยันจะออกมาเพื่อเรียกร้องเสรีภาพให้ผู้ต้องขัง ทั้งนี้ กระแสประชาธิปไตยมุ่งหน้าไม่หยุดเราจะชนะด้วยกัน โดยฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เห็นดีเห็นงาม สุดท้ายเราจะชนะไปด้วยกัน" อานนท์ ระบุ
เมื่อถามว่าถึงการร่วมชุมนุมอาจจะผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวอีก อานนท์ ระบุว่า จะจับปลาลงน้ำก็เปียกเป็นธรรมดา
ด้าน ไมค์ ภาณุพงศ์ ระบุว่า ขอบคุณทางศาลได้ให้โอกาสพวกเราพิสูจน์ความบริสุทธ์ เรายังคงต่อสู้เหมือนเดิม เพราะคุกไม่สามารถขังเราได้แค่ตัว เราจะสู้ต่อไปเพื่อให้ได้ซึ่งจุดหมายต่อไป ทั้งนี้ การมีเงื่อนไขต่างๆ ถือว่าไม่ยุติธรรม การที่ตนตัดสินใจที่จะไม่ประกันตัวในครั้งก่อนก็เพื่อต้องการในสิ่งที่เราเรียกร้องตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบสมบูรณ์หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญในทุกหมวด การถูกขังถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ตนไม่เคยเข้าไปสัมผัส แต่ข้างในไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด มีบางสิ่งที่เราได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้บอกความรู้สึกมีเพื่อนคุยที่ดี ไม่ได้มีใครปองร้ายพวกเรา ทุกอย่างดูแลพวกเราอย่างดี และได้เจอ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ซึ่งให้กำลังใจเด็กนักศึกษาทุกคน และ ณัฐวุฒิก็ให้กำลังใจ บอกว่าเคารพการตัดสินใจนักเรียน นักศึกษานำขบวนนี้ไปต่อได้
"ถ้าเราไม่มีบาดแผล เราจะไม่เป็นนักสู้แน่นอน เป็นเรื่องปกติ ขอบคุณทุุกกำลังใจที่ให้เรา เราสัญญาจะไม่ถอยอีกแล้วจะสู้ต่อไป" ภาณุพงศ์ ระบุ พร้อมขอตัวสื่อมวลชนเพื่อเดินทางกลับที่พัก โดยระบุว่า ตัวเองนอนน้อยจึงต้องพักผ่อนก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง