วันที่ 14 มิ.ย. 2564 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ชี้แจงที่ประชุมวุฒิสภา วาระเรื่องด่วน พิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงิน 5 แสนล้านบาท โดยกล่าวถึงแผนการกระจายวัคซีนว่า รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนให้ได้ภายในปี 2564 จำนวน 100 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การจะฉีดวัคซีนให้คนนั้น ต้องทยอยจอง นัดวันตามจำนวนของวัคซีนที่ได้รับมา เพราะรัฐบาลได้วางกรอบไปแล้วว่า แต่ละเดือนจะให้วัคซีนเท่าไหร่ จะมีบริหารจัดการอย่างไร

“หลายอย่างคาดการณ์ไว้แล้ว ผมเป็นทหารมาก่อน หลายอย่างก็ต้องวางแผนไว้ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนทุกอย่างก็ต้องปรับ  วันนี้สิ่งที่เป็นปัญหา คือการรับจองฉีดวัคซีน มีมากกว่าจำนวนวัคซีนที่แบ่งให้ไป เดิมมีระบบหมอพร้อม แต่เมื่อมีการเข้ามาทั้งประเทศ แล้วมันพอหรือไม่ บางจังหวัดที่จองมากก็ได้มาก บางจังหวัดที่จองน้อยก็ได้น้อยอย่างนั้นหรือ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายหน่วยงาน ขอเปิดแอปพลิเคชันลงทะเบียนของตัวเอง นายกฯก็ยอม แต่การนัดหมายต้องไม่เกินจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ เช่น ได้จำนวน 500,000 โดส จะต้องบริหารให้ได้ภายในหนึ่งเดือน ถ้าเร่งฉีดวันเดียว 40,000 คน ก็จะได้ไม่ถึงเดือน ดังนั้น จะต้องยืดเวลาไปให้ได้ จนกว่าจำนวนวัคซีนใหม่จะเข้ามา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์ ทุกอย่างมีการเมืองเข้ามาแทรกหมด ท่านก็เห็นว่ามันไม่ได้มีฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว แต่มีฝ่ายค้านและฝ่ายอะไรต่างๆ ก็เคารพ อย่างไรก็ตาม นายกฯไม่เคยหยุดคิด คิดวันนี้ คิดอนาคต จะต้องแก้ตรงนี้ให้ได้ก่อน แล้วมองอนาคตว่าเราจะมีวัคซีนไปถึงปีหน้าได้อย่างไร

“วันนี้เราโชคดีที่มีวัคซีนซึ่งผลิตในบริษัทของประเทศไทย แต่ก็ต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่ใช่ผลิตเท่าไหร่ก็เอามาจ่ายแล้วเองทั้งหมด วันนี้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีปัญหามากเพราะโรงงานในอินเดีย ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ได้ปิดทั้งหมด ถ้าเราเทียบกับต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนตามถนน โอเคมันดูดีหมด แต่ผมถามว่าเขารับผิดชอบไหม รัฐบาลนี้รับผิดชอบทุกคนที่ได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีน รัฐบาลนี้คิดทั้งหมด และยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ใครทำผิดไปจากสิ่งที่ผมคิดไว้เป็นเด็ดขาด"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการต่อรองเงื่อนไขสัญญาจัดหา 20 ล้านโดส คาดว่าจะส่งมอบในไตรมาสที่ 3 เช่นเดียวกับวัคซีนจอนสันแอนด์จอนสัน อีก 5 ล้านโดส นอกจากนี้ยังมีวัคซีนโมเดอร์นา ชิโนฟาร์ม สปุ๊กนิค วี โดยมีการเจรจาทั้งหมด แต่ต้องมาขึ้นทะเบียนกับบริษัทจัดจำหน่ายในประเทศไทยก่อน วันนี้รัฐบาลต้องการที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น มันอาจจะดูช้า แต่วันนี้สถิติเราขึ้นมาแล้ว

“ผมไม่อยากยึดอำนาจมา บอกจริงๆ หลายคนบอกว่าผมรวบอำนาจ 31 ฉบับ เพื่อผมจะสั่งการเอง ผมจะบ้าเหรอ แต่ผมต้องการจะปลดล็อคให้เขา เพราะทุกหน่วยงานมีกฎหมายของตัวเองทั้งสิ้น เรื่องด้อยค่ารัฐบาลท่านก็รู้อยู่ ฟังมากก็ปวดหัว ถ้าเราเชื่อทั้งหมดก็ทำอะไรไม่ได้ มองภาพกว้างอย่างผม จะรู้ว่าอันไหนทำได้อันไหนทำไม่ได้ วันนี้มีวัคซีนอยู่ประมาณ 6 ยี่ห้อ ไม่ได้แทงม้าตัวเดียว และประเทศอื่นเขาไม่ได้ดูแลอย่างเรา”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  “ยกตัวอย่างกรุงเทพฯ มีการบริหารแบบพิเศษทำไมผมต้องรวบอำนาจ ก็ลดอำนาจเพื่อจัดสรรปันส่วนให้ได้ทุกพื้นที่”

“การเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ผมต้องทำตัวผมให้มีเกียรติบ้าง ให้คนอื่นเขายกย่อง ให้คนอื่นเขาเชื่อมั่น ผมตั้งเกียรติของผมเองไม่ได้ เกียรติเป็นสิ่งที่คนอื่นเขามอบให้ ผมทำดีเขาก็ให้เกียรติกับผม ผมทำไม่ดีก็ไม่ต้องให้เกียรติผม แล้วก็ฝากไว้ด้วยถ้ามีการเลือกตั้งในอนาคต ผมยืนยันว่าจะอยู่ไปจนครบนี่แหละ จะได้เลิกพูดกันเสียที วันหน้าก็เลือกมาให้ดีก็แล้วกัน ทุกคนลืมง่ายหมดทุกเรื่อง วันนี้พ่อทำดีมากขึ้น ก็บอกต้องดีอีก ต้องดีอีก"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่มา 7 ปีไม่มีสตางค์ผ่านมือสักบาท มีแต่ตัวเลขเท่านั้น หากรู้ว่ามีการทุจริต ก็ส่งมา จะตรวจสอบ เพราะการพูดปากเปล่า มันทำอะไรไม่ได้ วันนี้เป็นการทำงานในลักษณะประชาธิปไตย เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งต่างจาก คสช. มาก แต่ผมก็โทษใครไม่ได้ เพราะประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่เคยนึกถึงตัวเองเลย ในหัวนั้นทำงานทุกวัน ฝันยังต้องทำงาน ไม่เคยฝันเป็นอย่างอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงวุฒิสภาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สลับกับมีอารมณ์โมโหในบางช่วงบางตอน โดยในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ถาม ส.ว.ว่า “มีใครไม่เชื่อมั่นผมไหม ยกมือขึ้น" ก่อนที่จะตอบเองว่า  “ก็ไม่มี”